Friday, August 8, 2008

Bae yong Joon In my memory box




















Dear Mrs Bae,
You may be surprised to receive this letter. I am one of the many Thai fans of your son Bae Yong Joon. Not an ordinary fan, because it's been three years now that I have been continually following up on the news about your son's career and private life with so much enthusiasm. I'm so much impressed by the way he devoted his life to his profession, his family and BYJ family, and his determined mind-set to help the society. At so many occasions, he has donated his hard-earned money to the mishap-stricken people. I have always been wondering how he had been brought up as a boy and what a wonderful mother he must have had.


12 August is a very important day in Thailand, it is the Mother's Day, as it is also the birthday of our Queen who is revered as the Mother of the Nation.

And on that day I think of you, Mrs Bae. To me, you are one of the best mothers of the world, because you have managed to bring up such a sweet person who is so kind-hearted, so well-loved by millions of people, and who never disappointed us with his thousands and thousands of good deeds. You sure can be very proud of your son, Mrs Bae. You are the best mother of the best guy in the world!!.

Have a wonderful Mother's Day with your beloved son!!!


ขอขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ ของเบ ยองจุน ที่ มอบของขวัญ ล้ำค่า ให้กับชาวโลก
และจากการเลี้ยงดูของคุณพ่อ คุณแม่ ทำให้ เบ ยองจุน เป็นอย่าง ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้
โดยเฉพาะคุณแม่ทีได้อบรมให้ความรักความเอาใจใส่ยงจุนมา รวมทั้งเป็นผู้ถ่ายทอดสายเลือดให้ยงจุน ทั้งทางตรง และด้วยน้ำนม
ขอแสดงความนับถือชื่นชม คุณแม่ของยงจุนว่าเลี้ยงดูยงจุนได้สมบูรณ์แบบที่สุด คุณแม่ท่านนี้น่านับถือ น่ายกย่อง หากเกิดหรืออยู่ในประเทศไทย คุณแม่ของยงจุนน่าจะได้เป็นคุณแม่ดีเด่นแห่งชาติ ซ้อนกันหลายๆปี เพราะ เบ ยองจุน มีเรื่องราว ที่ทำให้ชาวโลก มีความสุขด้วยความปลาบปลื้มชื่นชม เพิ่มขึ้น ทุกปี ตามวันเวลา
เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2551 นี้ ขอมอบความเป็นคุณแม่ดีเด่นแห่งชาติเกาหลีให้คุณแม่ของยงจุน


I apologize for oversea BYJ family for this Thai message. I am very poor in English language .I can’t translate to English.These are my memory box about Mr.Bae yong Joon and I want to share his story To new Thai BYJ family. I think the general BYJ family Known and clear this story more than amornbyj.


ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยนี้เคยมีหนังสือเรียน mythology ใช้เรียนหลายสิบปี แปลเป็นไทยของหนังสือนี้คือ ปกรณัมปรัมปรา แม้ปัจจุบันจะใช้เพียงประกอบการเรียน เป็นหนังสือเกี่ยวกับตำนาน เทพและวีรบุรุษ กรีก –โรมัน-นอร์ส

นอกจากนี้มีหลักสูตรวิชา ภูมิหลังทางเทวะตำนานของวรรณคดีอังกฤษ

เคยอ่านฉบับภาษาไทย ที่แปลโดย รองศาสตราจารย์นพมาส แววหงส์ ก็ รู้สึกสนุกสนาน วาดจินตนาการ ไปตามเรื่องราวของเทพแต่ละองค์ แต่แล้ว ในชีวิตจริงกลับได้ได้พบเรื่องราวจริงของผู้ชายคนหนึ่ง น่าทึ่งเสียยิ่งกว่าเทพจากตำนานทั้งหลาย เป็นคนเอเชียที่มุ่งมั่นต่อความเป็นหนึ่งเดียว ของอาเซียน

เบ ยองจุน มิใช่บุคคลในตำนาน หรือเป็นเรื่องเล่าขานกันมาแต่ปรัมปรา แต่เป็นบุคคลที่มีตัวตนอยู่ในโลกแห่งปัจจุบัน สัมผัสได้ มีเรื่องราวจริงให้ติดตามศึกษาค้นคว้าและทำวิจัย คำว่า ทำไม ทำไม ทำไม ล้วนมีคำตอบในทุกคำถาม เรื่องราวของยงจุนมีมากมาย

คนเราทุกคนมีอวัยวะภายในตัวมากมาย มีส่วนหนึ่งที่เรานำมาใช้เพื่อแสดงลักษณะความโดดเด่นอย่างชัดแจ้งของคนคนนั้น คือ กึ๋น และพวกเราล้วนรู้จักคำว่าพรสวรรค์ พรแสวง ได้ยินคำว่า strategy คำว่า tactics ดีกันทุกท่าน

ในตัวของยงจุน มีครบทั้ง 5 อย่างที่กล่าวมา นอกจาก กึ๋น และพรสวรรค์แล้ว ที่เหลือเราสามารถเรียนรู้และสร้างสมประสบการณ์ได้ แต่ กึ๋น และพรสวรรค์ ของยงจุน น่าติดตามเรื่องราว การให้สัมภาษณ์ ทุกครั้งของยงจุน ความฉลาดในการตอบคำถาม ช่างน่าทึ่งจริง ๆ ยงจุนไม่ได้มี กึ๋น ใน การพุด การตอบคำถาม การแสดงความคิดเห็นเท่านั้น ส่วนหนึ่งมาจาก ความรู้สึกนึกคิดและจิตใจอันแท้จริงของยงจุน คำพูด ความนึกคิด การกระทำต่างๆ นี้ แสดงออกถึงอุปนิสัยใจคอของยงจุน ว่า
ยงจุนเป็นคนดี จิตใจใสสะอาด ผ่องแผ้ว เปรียบก็เหมือนทองนพคุณ ทองเนื้อเก้า ยงจุนเอื้อเฟ้อเผื่อแผ่ ไปยาลใหญ่ ดีกว่านะคะ ถ้าจะเปรียบอัญมณี ยงจุนก็เหมือนเพชร และเป็นเพชรน้ำหนึ่ง ไม่ว่าอยู่ที่ใด ก็ส่งแสงแวววาว จับตาจับใจ ผู้คนที่พบเห็น
อ้อและ Fumi บอกไว้ว่า ยงจุนเป็นคนที่มีความคิดลึกซึ้งแบบนักปรัชญา

อ่านตามประวัติยงจุนจากวัยเด็กน้อย ยงจุนมาจากครอบครัวที่อบอุ่น กรุ่นด้วยความรักในครอบครัวของพ่อแม่พี่ชายน้องสาว รวม 4 คน
ยงจุนเป็นคนเงียบไม่สุงสิงกับใครไม่ออกไปเล่นซุกซนกับเพื่อนบ้าน ยงจุนมีโลกของตัวเองอยู่กับจินตนาการที่จะเรียนรู้สิ่งที่อยากรู้ด้วยตัวเอง เป็นเด็กอยากรู้อยากเห็น คำถามว่า นั่นอะไรครับ ทำไมครับ ทำให้ผู้ใหญ่เหนื่อยกันไปตาม ๆ ยงจุนเป็นเด็กช่างถามเท่านั้น ไม่ใช่เด็กช่างพูด ขอฟันธงว่ายงจุนเป็นเด็กฉลาด ยงจุนเป็นนักทดลอง เป็นนักสร้างจินตนาการที่เป็นเรื่องเป็นราว(ไม่ใช่เพ้อฝันล่องลอยไปเรื่อยเปื่อย) ความคิดและจินตนาการของเด็ก 6 ขวบ ช่างน่าเอ็นดูและประหลาดใจว่าคิดได้อย่างไรนี่

เมื่อเป็นนักเรียนก็เป็นนักเรียนดีคุณครูรักใคร่ ครูอาจารย์มีเด็กนักเรียนมากมายผ่านมาแล้วก็ผ่านไปแต่ละรุ่น รุ่นแล้ว รุ่นเล่า ครูจะจำนักเรียนได้ 2 ลักษณะ คือเด็กเรียนเก่ง และเด็กซ่าจอมแสบในห้อง แน่นอนว่ายงจุนเป็นเด็กเรียนเก่งแถมเป็นเด็กดีมากอีกต่างหากแม้ยงจุนจะเงียบมาก แต่คุณครูก็รักเอ็นดู เมื่อเข้าวงการเป็นดารามีนิตยสารให้ยงจุนเล่าเรื่องของตนเองเป็นตอนๆ ยงจุนก็เล่าทุกอย่างที่เป็นตัวตนเป็นความรู้สึกนึกคิดแท้จริงของตน เรื่องที่เคยทำผิดพลาด ยงจุนก็เล่าสู่ให้อ่านและรู้สึกผิดที่ทำเช่นนั้น นั่นเพราะยงจุนซื่อสัตย์ที่จะไม่เล่าเฉพาะส่วนดีของตัวเองเท่านั้น เด็กคนหนึ่งครูก็รัก เมื่อเริ่มงานแสดงผู้กำกับก็รัก อ่านไปอ่านมาคนเขียนบทก็รัก ไม่ใช่รักชั่วครู่ชั่วยาม เป็นรักเอ็นดูที่ยืนยาวต่อเนื่อง ผู้ร่วมงานต่างๆ ทั้งงานละคร งานถ่ายโฆษณาต่างพาพูดถึงยงจุนในแง่ดี ชื่นชมและยกย่องเสมอ นอกเหนือไปจากความสง่างาม รูปหล่อ สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะหากเป็นการถ่ายทำละครหรือภาพยนตร์ ทั้งดาราที่ร่วมแสดง ผู้กำกับ มักให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกดีๆที่มีต่อยงจุนเสมอมา

เมื่อยงจุนโด่งดังและไปเปิดตัวนอกประเทศ ทำไมญี่ปุ่นซึ่งมีดารามากมายก่ายกองดังข้ามประเทศเหมือนกัน(มาไทยเราด้วย) เหตุใดยงจุนจึงแซงโค้งดาราญี่ปุ่นเข้าไปสถิตในห้วงดวงใจชาวญี่ปุ่นขนาดนั้น แน่นอนว่าเริ่มมาจากบทละครที่ผู้ชมชื่นชอบ และชื่นชม ว่า ยงจุนรูปหล่อ แสดงบทบาทพระเอกได้ดี ผู้ชมอินกับละคร ผู้ชมซึ่งอยู่ในวัยที่มีวุฒิภาวะพินิจพิจารณาเรื่องราวของละครและการแสดง ไม่ได้ชมแบบสนุกสนานเฮอา หรือแค่หน้าตาคนแสดง เมื่อมีโอกาสได้พบตัวจริง ผู้ชมที่ชื่นชอบกลับยิ่งติดตราตรึงใจยงจุนยิ่งขึ้นไปอีก ไม่แค่ชาวญี่ปุ่น รวมถึงสิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง จีน(แล้วก็คนไทยอย่างพวกเรา) นี่ไม่ใช่การแสดงตามบทบาทแน่นอนที่ทำให้คนทั้งหลายพากันเทหัวใจออกมากองรวมให้ยงจุน นั่นคือตัวตนที่แท้จริงที่คนมีโอกาสเข้าใกล้รับสัมผัสความเป็นยงจุนที่แท้จริงได้ ไม่ใช่ผ่านจากหน้าจอทีวี จอภาพยนตร์ ไม่ใช่เรื่องราวการเป็นดาราของยงจุนเท่านั้น

เคยอ่านเจอใน Bloggang , เมื่อ23/04/05 ว่า

ยงจุนเป็นคนติดดินไม่เคยพกเงินมากกว่า 30 เหรียญ ยูเอส เนื่องจากคุณพ่อประสบปัญหาล้มละลาย เมื่อตอนยงจุนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ยงจุนเป็นคนคิดก่อนใช้เงินและใช้เงินอย่างมีคุณค่าเสมอ แต่อย่าเข้าใจผิดยงจุนไม่ใช่คนขี้เหนียว ยงจุนมักเลี้ยงเพื่อนร่วมงานในมื้อดึกและนอกจากจะให้แฟน ๆจับมือพร้อมมอบลายเซ็นให้แฟนๆแล้วยงจุนยังเคยซื้อแฮมเบอร์เกอร์และกาแฟเลี้ยงแฟน ๆ ที่ตามไปถึงกองถ่ายด้วย

ในเรื่องการทำงาน ยงจุนเป็นคนมีหลักการและเหตุผลในการรับงานแสดง
ยงจุนเป็นคนพิถีพิถันในการรับงานแสดง ไม่เห็นแก่การรับงานแสดงเพื่อให้ตัวเองปรากฏอยู่บนจอทีวีให้มากที่สุด แปลอีกทีไทยเป็นไทยว่าไม่เห็นแก่เงินค่าตัวนักแสดงด้วย งานแสดงที่ยงจุนรับยงจุนต้องพิจารณาแล้วว่านั่นคือบทบาทที่ดีที่ยงจุนจะมอบให้แก่ผู้ชมทางบ้าน การถ่ายทำยงจุนจะตั้งใจแสดงมาก
One more time
เป็นสมญานามของยงจุนในการถ่ายทำภาพยนตร์หรือซี่รีส์ ยงจุนเป็นคนสมบูรณ์แบบในการรับบทละครและการแสดงบทบาทเมื่อตอนเล่น winter love song ยงจุนไม่เห็นด้วยในการให้ยงจุนรับบทเป็นคังจุงซาง เพราะคังจุงซางอายุเพียง 18 ปี แต่ยงจุนอายุ เกือบ 30 แล้ว และขอให้หาคนอื่นมาแสดงแต่ผู้กำกับไม่ยอม ยงจุนต้องลดน้ำหนักหลายกิโลกรัมเพื่อให้รูปร่างเล็กลงเพื่อให้ดูเป็นวัยรุ่นขึ้นเพื่อรับบท คังจุงซาง (รวมทั้งเรื่อง untold scandal ) ด้วย ยงจุนใช้เวลาในการศึกษาและอ่านบทละคร 3 รอบและปรึกษาผู้กำกับก่อนการแสดงจริงเสมอ ยงจุนป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะอากาศที่หนาวเย็นจัด เมื่อหายป่วยก็ทุ่มเทถ่ายทำทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อให้ละครเสร็จทันเวลา on air (Winter Love song ) และในภาพยนตร์ April snow ยงจุนก็ตั้งใจ แบบนี้เหมือน กัน ยงจุนเป็นคนมีความตั้งใจ รักเคารพในงานที่ทำ และเป็นนักแสดงที่มีวินัย ที่เขียนมานี้ เขียนตามคำบอกเล่าจากนิตยสาร อื่น ๆ แต่ ที่ทุกคนประจักษ์ใจด้วยตาตนเอง ก็ คือในการแสดงละคร ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ ที่ยงจุน บาดเจ็บหลายครั้ง สองครั้งสุดท้าย ที่คอ และหัวเข่า ยงจุน บาดเจ็บมาก แต่ชายผู้นี้ คือ เบ ยองจุน ยงจุน จึงอดทน ถ่ายทำละครจนจบ ทั้งที่ตัวเอง เจ็บปวด ทรมานเหลือแสน

เมื่อต้นปี 2006 ที่สถานี MBC ก็เคยมีละคร เรื่อง “ WOLF “ ต้องหยุดออกอากาศกลางคัน เพราะ พระเอกได้รับบาดเจ็บ ระหว่างการถ่ายทำ .

ยงจุนไม่เคยเป็นเจ้าชายสายเสมอเพราะ ยงจุนไม่เคยไปสาย ยงจุนไม่ถือดีว่า เป็น ซุปเปอร์สตาร์ ยงจุนจะตั้งใจศึกษาบท อ่านบท หลายรอบ ภาพที่กองถ่ายนำมาสื่อคือ ใน มือของยงจุน จะถือสคริปต์ ตลอดเวลา ยงจุนไม่ถือตัวว่าเป็นดาราสำคัญแค่ไหน ช่วยแบกอุปกรณ์ของฉากถ่ายทำ ( น่ารักจริงๆ)
ในกองถ่าย จัดอาหารเลี้ยงนักแสดง และทีมงาน เคยมีคนถามยงจุน เรื่องอยากทานอาหารอะไรแบบไหน ยงจุน ตอบว่า ตนเองไม่ค่อยได้ทานนัก อย่ากังวลใจเพราะยงจุน ให้เอาใจกับทีมสต๊าพท์ ดีกว่า

ยงจุนเป็นที่ยอมรับในวงการว่าเป็นคนกตัญญู รู้คุณผู้มีพระคุณ
เป็นที่กล่าวกันว่า ยงจุน รักเคารพ นับถือ ผู้กำกับ Jeon เหมือนบิดา เชื่อฟังคำแนะนำ ที่ยงจุนไปปรึกษาหารือเรื่องงานอย่างเปิดเผย และใช้ชีวิตของการเป็นดาราตามคำแนะนำ เสมอมา คือ ยงจุนควรรับงานโฆษณา โดยคำนึงถึงความเหมาะสม กับภาพพจน์ของยงจุน มากกว่าเงินที่จะได้รับ ในระยะแรก ๆ ยงจุน มีผู้จัดการ เพียง 2 คน การตัดสินใจรับงาน ยงจุน มีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจ ผู้จัดการยอมรับในการตัดสินใจของยงจุนในเรื่องงานละคร ภาพยนตร์ที่ยงจุนรับแสดงหรือการปรากฏตัวในงานต่างๆ ยงจุนจะปฎิเสธ รายการโชว์ต่างๆที่ไม่เพียงพอแต่จะแสดงภาพลักษณ์ของดาราในละครเท่านั้น ยงจุน เป็นคนที่เชื่อมั่นในตนเองมาก เมื่อคราวแสดงภาพยนตร์ Untold Scandal ผู้จัดการของยงจุนไม่เห็นด้วยกับการที่ยงจุนจะรับบท เพลย์บอย โช วอน แถมต้องถอดแว่นตา แต่ยงจุน ต้องการแสดงว่า ยงจุน เป็น นักแสดง ที่ต้องแสดงบทบาท อันหลากหลาย ได้ และอย่างดีเป็นที่ยอมรับ ยงจุนจึงรับแสดง และประสบความสำเร็จในภาพยนตร์เรื่องแรก

เมื่อ นักเขียน So Johye เจ้าของบทประพันธ์ First love และ Sunny place of the young เสียชีวิต ยงจุน เศร้าโศกมาก และไปร่วมงานอยู่ในงานศพ ถึง 3 ชั่วโมง "First Love that made BYJ famous. "
3 ชั่วโมง ของยงจุน ในปี 2006 ที่ไม่ได้วางตารางเวลาไว้ก่อน เป็นเรื่องใหญ่มาก แสดงว่ายงจุน ต้องตัดรายการอื่นๆออกถึงไปร่วมงานได้นานอย่างนี้ นั่นเพราะ ยงจุน ซาบซึ้ง กับบทบาทของชานวู ที่ So Johye เขียนไว้ให้ยงจุน

ล่าสุด กับผู้กำกับ คิมจองฮัก ที่มีข่าว ว่า ยงจุน ขัดแย้ง ในเรื่องบทของละคร ตำนาน จอมกษัตริย์ เทพสวรรค์ เมื่อยงจุนไดรับบาดเจ็บที่คอ ครอบครัวของยงจุน วิจารณ์และตำหนิ ผู้กำกับอย่างหนัก Fumi ย้ำว่า ไม่ว่าละครเรื่องนี้ จะลงทุนมากมายมหาศาลเพียงใด แต่มันไม่มีความสำคัญ เทียบเท่า ความปลอดภัยของยงจุนเลยแม้แต่น้อย เพียงผู้จัดการของยงจุน บอกว่า เขาได้ยินมาว่า ยงจุน รักเคารพ ผู้กำกับ คิมจองฮัก เหมือน บิดา หัวข้อเรื่องยงจุนบาดเจ็บก็สลายหายไป ไม่ขึ้นเป็นหัวข้อข่าวอีกเลย

ภาพวันถ่ายทำวันสุดท้าย ที่ยงจุน แสดง สปิริต สูงสุดของนักแสดง เมื่อแสดงจบ ยงจุน และ ผู้กำกับ กอดกันด้วยความรักอย่างจริงใจ ทั้งคู่ น้ำตา ซึม บ่งบอกว่า ทั้งคู่รู้สึกอย่างไรต่อกัน เรื่องงานก็ส่วนงาน

ยงจุนเป็นคนใส่ใจและเอาใจใส่คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นทีมงาน ทีม Staff หรือแฟนคลับ ยงจุนเป็นที่ยอมรับของ Staff ขณะที่มีข่าว 30 คนเมื่อ3ปีที่แล้ว

ยงจุน ซื้อบ้าน ซื้อรถ ให้ผู้จัดการ 2 คน ให้ความช่วยเหลือ ทีม staff ที่เดือดร้อนหรือ มีปัญหาต่างๆ
คุณแม่ ของ staff คนหนึ่งเคยป่วย นอน โรงพยาบาล แล้ว ยงจุน ไปตกปลา เมื่อกลับมา ได้เอาปลาที่ได้มา มาให้ เพื่อ เอาไปให้ทำอาหารให้คุณ แม่ ปลายังสดอยู่ คนรับก็แสนเป็นปลื้ม ที่ยงจุน รู้ว่า คุณแม่ป่วย

BYJ Doesn’t Forget Consideration toward the Younger Staff Members
เป็นหัวข้อข่าว จากการถ่ายทำ ละครตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์

ยงจุนเป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใจบุญ เสียสละ เมื่อตัวเองมีเงินทองมากแล้ว ก็รู้คิดที่จะตอบแทนสังคมช่วยเหลือสังคม

ในปี 1999 เบ ยองจุน แสดงละครเรื่อง Have we really love
ปรากฎการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสังคมเกาหลีใต้ที่เกิดจากละคร นั่นคือ เกิดกลุ่มอาสาสมัครที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าและเด็กยากจนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษาชื่อว่า Woojeongsa club หรือมีชื่อย่อว่า WJS Club ซึ่งมาจากชื่อละครภาษาเกาหลีก็คือ Wriga Jeongmal Saranghaesseulkka หรือ Have we really love ? นั่นเอง... และยังคงมีการดำเนินกิจกรรมทางสังคมจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้...
จากการรับบทบาท Kang Jea ho ส่งอิทธิพลให้เบ ยองจุนกับไปเริ่มเรียนใหม่อีกครั้ง ในสาขา FTM(Film,TV&Multimeadia) in school of art of Sungkyunkwan University อย่างนักศึกษาทั่วไปและเรียนแบบเต็มเวลาโดยไม่รับงานแสดงและงานโชว์ตัวใด ๆ ถึง 2 ปี ในระหว่างที่เรียนนั้นเบ ยองจุนเข้าเป็นสมาชิกอาสาสมัครใน WJS CLUB ทำงานสาธารณกุศลช่วยเหลือเด็กกำพร้า และเด็กที่ด้อยโอกาสในการศึกษา
ครอบครัวรุ่นเก่าๆ คงจำภาพ ที่ เบ ยองจุน ร่วมกิจกรรม กวาด ถนน และรับรองว่า นั่นไม่ใช่การสร้างภาพ
เคยอ่านเจอ แต่จำแหล่งที่มาไม่ได้ แล้ว ว่า เบยองจุน บริจาคเงินส่วนตัวในนามของชมรมWJS CLUB เป็นทุนการศึกษาเด็กๆ ตลอดมา

ในปี 2004 มีข่าว BYJ Scholarship fund
ที่จะจัดตั้งให้ กับชาวเกาหลีและญี่ปุ่น และในงานแสดงภาพของ ยงจุน ทุกครั้ง ยงจุน จะแบ่งเงินสำหรับการกุศลเสมอมา ส่วนใหญ่งานแสดงภาพจะจัดที่ญี่ปุ่น

เมื่อ 12/04
ยงจุน บริจาคเงิน 300 ล้านวอน สำหรับแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม 2004

ยงจุนบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ยากแสนสาหัสจากการประสบภัย ธรณีพิบัติ สึมานิ 300 ล้านวอน to world Vision of relieve the damage of south Asian earthquake and tsunami
และ 200 ล้านวอน for the domestic pediatric cancer children ในประเทศญี่ปุ่น
รวม ยงจุน บริจาคเงิน 800ล้านวอน สำหรับ for Asian familes

BYJ 800 million won good deed “ Returning the love from Asian people”

17/08/05
เมื่อยงจุน ไปไต้หวัน ยงจุนได้บริจาค เงิน $ 100,000 ( us dollars) สำหรับการสร้างห้องสมุด for native Taiwanese
เมื่อ 31/12/05 มี จดหมาย จากเด็ก ๆ ไต้หวัน เพื่อขอบคุณ ยงจุน “ Uncle BYJ,we thank you.

27/12/05
He collected 79 million yen money for donation as he gave out the photo used in photo exhibition in charity auction.

20/07/06
BYJ delivered 200 million won relief donation for flood victims. Pyeongchang, Inje, Hweongseong ใน มณฑล Kando

18/12/07
Bae Yong Joon’s management company, Keyeast said on the 12th, แบยองจุน จะบริจาคเงิน 320,000,000 วอนให้กับ Taean-gun เพื่อซื้ออุปกรณ์ เช่น ชุดประดาน้ำแบบพิเศษ, หน้ากาก, ถุงมือ และอื่นๆ สำหรับคน 10,000 คนหรืออาสาสมัครที่กำลังทำงานทำความสะอาดล้างคราบน้ำมันจากทะเล*
* (เหตุการณ์หายนะการรั่วไหลของน้ำมัน ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ หลังจากที่เรือบรรทุกน้ำมันที่จดทะเบียนในฮ่องกง เกิดอุบัติเหตุชนกับเรือลำหนึ่งจนท้องเรือทะลุ จนมีคราบน้ำมันไหลออกไปไกลความยาวกว่า 20 กิโลเมตร ปริมาณกว่า 10 ล้านลิตร)credit : http://www.bloggang.com/
.
2008/07/23 10:35:56
ยอน-ซามะ จะบริจาคเงินส่วนหนึ่งที่ได้จากผลกำไรของการจำหน่ายแว่นตาแก่ประเทศเนปาล
เบยองจุนจะร่วมกิจกรรมการกุศลเพื่อช่วยเหลือเด็กในประเทศเนปาล เขาได้ตกลงที่จะเข้าร่วมโปรแกรมช่วยเหลือสังคมของ “เมกาเนะ อิชิบะ” ซึ่งเป็นบริษัทเบยองจุนทำธุรกิจร่วมอยู่
เขาดูแลสินค้ากรอบแว่นตา ตราสินค้า “I Wish”
ผลกำไรจำนวนเงิน 378 เยน ต่อการจำหน่ายกรอบแว่นหนึ่งอัน จะนำไปบริจาคเข้าโครงการช่วยซื้อวัคซีนในประเทศเนปาล ตลอดโครงการฟอสเตอร์ของญี่ปุ่น
ยอน-ซามะ ช่วยงานกิจกรรมการกุศลนี้อย่างขยันขันแข็ง เขาบริจาคเงินเป็นจำนวนมากให้แก่หลายประเทศในอาเซียนที่ได้รับความเดือดร้อนในเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมทั้งกรณีแผ่นดินไหวที่นิอิกาตา ชูเอซึ ด้วย
โฆษณาสินค้าตัวใหม่นี้จะออกอากาศตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2551

ยงจุนมีความ เอื้ออาทรมอบให้ผู้ที่มีความทุกข์จากโรคภัย
ยงจุนช่วยเหลือให้ผู้มีความทุกข์นั้นได้สุขสมหวังในความปรารถนาที่ตั้งไว้ มีข่าวเมื่อ
3/23/04
มี Thai lady ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ตั้งความปรารถนาไว้ว่า I want to see him (ยงจุน) once by all means before I die. ความตั้งใจของ Thai lady ผู้นี้ ตั้งใจว่า เพียง 10 นาที ที่จะได้พูดคุยและถ่ายรูปกับยงจุนก็พอใจแล้ว ยงจุนรับทราบความปรารถนานี้และยินดีมอบความสุขให้ Thai Lady นี้ได้สมหวังดั่งที่ตั้งใจ ยงจุนเป็นฝ่ายไปพบที่โรงแรมที่ Thai lady พักที่กรุงโซล พูดคุยให้กำลังใจกับ Thai lady เกือบครึ่งชั่วโมง เกินความคาดหวังของผู้ร้องขอเสียอีก ทั้งที่ยงจุนกำลังยุ่งมากกับการเตรียมการไปเยือนสิงคโปร์และฮ่องกง BYJ shed tear when he met a Thailand fan who is fighting against cancer
เราคนไทยซาบซึ้งและขอขอบคุณยงจุนที่ช่วยสานฝันให้คนป่วยได้พบความสุขที่ใฝ่หาในยามสิ้นหวังกับชีวิต

23/08/05
Bae Yong-jun consoles seriously ill Taiwanese fan
Taiwanese media reported on Aug. 21 that Bae cried when visiting Wanpang Hospital in Taipei, where Jen Meiju, the mother of his Taiwanese fan club chairman and an ardent Bae fan, is receiving treatment for lung cancer.
เป็นเวลาที่ ยงจุน กำลังโปรโมท ภาพยนตร์ April snow.

Thank you, Yon-sama", A story of BYJ giving hope to a fan fighting against breast cancer[Sports Korea]11/29/06

Residing Kyoto, Japan, Ms Asada was told to have breast cancer in 2005. Six month after she found out the disease, cancer cells metastasized to bones so that she had a crisis of losing life. However, BYJ was exactly the motive for her, who once gave up a will to live after getting diagnosis of the cancer, to regain courage again.

December 23rd, 2007 08:50:45
Bae Yong Joon, on crutches, comforted Han Jae Seok as his mother had died.]Hallyu star, Bae Yong Joon showed his friendship with the colleague, Han Jae Seok.Bae Yong Joon went to Samsung Hospital to express his condolence around 1:30 am on the 23th. Samsung Hospital is located at Ilwondong in Seoul and is where the coffin of Han Jae Seok’s mother, Lee Joo Won (64), is until the funeral day,
Bae Yong Joon went to the mortuary on crutches with the help of his manager to comfort Han Jae Seok. He injured himself while he filmed the MBC drama ‘TWSSG’ which recently finished broadcasting.
was known that Han Jae Seok and Bae Yong Joon had a close relationship with each other for a long time. Bae Yong Joon stayed at the mortuary to comfort Han Jae Seok for about 30 minutes.

ยงจุนเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนถึงเป็นที่รักของคนผู้คนที่เกี่ยวข้อง
ยงจุนมักยกเครดิต ความดี ความหล่อ และสิ่งดี ๆ ในตัวเองให้คนอื่นเสมอ ยงจุนมักจะมีคำแสดงความชื่นชม ดารา คนอื่นๆเสมอ เช่นแจงดองกันและคนอื่น ไม่นับรวม ดาราที่ยงจุนมักบอกว่าให้ความช่วยเหลือคำแนะนำการแสดงต่าง ๆกับยงจุน เช่น คิมซังวู ที่ยงจุนถือเป็นเพื่อนรัก เป็นต้น

[คิมซังวูเป็นผู้บรรยายพิเศษให้กับนักศึกษา ซึ่งเรียนวิชาเอกสาขาสิ่งพิมพ์ ในหัวข้อ ความใฝ่ฝันที่เยาวชนต้องค้นหา ณ วิทยาลัยนานาชาติ Pyeongtaek , กวอนกิโด วันที่ 21 เวลาบ่ายโมง
edaily SPN Reporter Kim Yongwoon] “We should see BYJ as a well-known figure of society.”คิมยองวอน รายงาน ใน edaily SPN เรามักเห็นว่าเบยองจุนเป็นที่รู้จักของคนชั้นสูงในสังคมเป็นอย่างดี

เคยอ่านพบ ที่มีคนชม ว่า เบ ยองจุน รูปหล่อ แล้ว เบ ยองจุน บอกว่า แจงดองกัน รูปหล่อ กว่าผม
เมื่อ 28/01/06
Jang Dong-Geon’s comment on BYJ ว่า ......... BYJ one person has changed long standing perception of Korea people held by Japanese people.I felt all the more keenly the power of popular culture,the power of actor. I have a lot of think to do.

และ จูจินโม เคยกล่าวชื่นชม ยงจุน ในละครเรื่อง winter love song ว่า ที่ละครเรื่องนี้ โด่งดังมากขนาดนี้ เป็นเพราะละคร เรื่องนี้ นำแสดงโดย เบยองจุน ไม่ได้โด่งดังเพราะละคร

รวมทั้ง คุณแม่ ของ ซงอิลกุก นิยม ชมชอบ เบยองจุน มาก ซงอิลกุก บอกว่า คุณแม่ของเขา เป็น แฟนของยงจุน Song Il kuk saying “ My mother is a BYJ fan and because she is enthusiastically watching TWSSG,I am watching it with her. Mother Love TWSSG. และ คุณแม่ บอก Money Today Star News ว่า “ BYJ is better than my own son “ ขอขอบคุณ คุณ Kim Eul Dong นะคะ

ยงจุนเป็นนักแสดงที่ในหนังสือ Korean movie star p 64 กล่าวว่า ยงจุนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นนักแสดงภาพยนตร์โรแมนติกที่เยี่ยมที่สุด และยงจุนไม่ได้แสดงได้ดีเฉพาะบทโรแมนติกเท่านั้น ในบท เพลย์บอยโบราณ โชวอน ก็แสดงได้ดีเยี่ยมเช่นกัน หนังสือนี้ลงเรื่องราวสั้น ๆ ของดาราเกือบ 500 คน

นี่ยังไม่รวมความว่า ยงจุน หล่อ ฉลาด มีความรอบรู้และเป็นมืออาชีพในเรื่องที่ถูกตั้งคำถามในการให้สัมภาษณ์ต่างๆ สุภาพ อ่อนโยน เป็นคนตรงไปตรงมา มีความจริงใจไม่เสแสร้ง ไปยาลใหญ่ครั้งที่2 ค่ะ
เคยมีหัวข้อ
50 reason why Mr. Bae is wonderful. –Yoonkyeongyongjoon-nim.

Talking about BYJ มี 50 ข้อ เท่ากัน โดย Yoo Sooyeon.

มี 101 stories about Yongjoon-nim ^^^^^ by verimoti-nim

Some interesting facts about Yong Joon[ Compiled by Liezle at Soompi, together with Frances]
คราวนี้ มี 108 ข้อ ที่ Twssgblogspot นำมา Post ไว้

นี่ล้วนแต่เป็นความรู้สึกของ คนที่ตั้งหัวข้อของตนขึ้นมา ไม่ใช่จินตนาการ แต่เป็นจริง ของ เบ ยองจุน ทั้งสิ้น

ในปี 2003 ยงจุนถูกยกเป็นตัวแทนธุรกิจบันเทิงเกาหลีเป็นที่รู้จักของสาธารณะชนเช่นตัวแทนนักแสดงเกาหลี ได้รับรางวัล super brand .ในเดือนตุลาคม 2003 โดยสถาบันวิจัยนโยบายอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากร

ยงซามะ เป็นฉายานามที่ชาวญี่ปุ่นตั้งให้ เมื่อปี 2004 และถือเป็นวลีที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่นในปีนั้น

เมื่อ19 มีนาคม 2004
มีพิธีตั้งชื่อกล้วยไม้พันธุ์ใหม่ที่จะนำไปปลูกที่สวนพฤกษศาสตร์ที่สิงคโปร์ ว่า dendrobium Bae yong joon จะมีแต่คนระดับโลกเท่านั้นที่ได้รับเกียรตินี้ อาทิ เช่นสมเด็จพระราชินีอาลิซาเบท ที่ 2 แห่งอังกฤษ เจ้าหญิงไดอาน่า นายโคฟี่อานัน เลขาธิการสหประชาชาติ ประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลลา ฯลฯ เป็นต้น เบ ยองจุน นับเป็นชาวเกาหลี คนที่ 2 ที่ได้รับเกียรตินี้
Dendrobium Bae Yong Joon
เบยองจุนก็เป็นชื่อกล้วยไม้พันธุ์ใหม่ แต่ dendrobium เป็นชื่อสกุลหรือตระกูลของกล้วยไม้ คือสกุลหวาย ถ้าเป็นกล้วยไม้ไทยแท้ ๆ จะมีชื่อไพเราะเพราะพริ้งมากมายส่วนใหญ่เป็นกล้วยไม้ป่า เช่นมณีไตรรงค์ (สุดยอดกล้วยไม้ไทยตระกูลหวาย) ไม้เท้าฤาษี และที่ขึ้นด้วยคำว่าเอื้องทั้งหลาย แถในท้องตลาดจะเป็นสกุลหวายผสม เช่นซีซ่าร์และอื่นๆ กล้วยไม้หวาย เบยองจุน ที่เคยเห็นรูป เป็นสีม่วง เวปที่สิงคฺโปร์ ใช้เป็นสัญลักษณ์ เคยไปถามหาที่สวนจตุจักร คนขายทำหน้าตาเหรอหราแล้วสั่นหน้า ช่าง ไม่ up date ข้อมูลเลย แต่เขาก็รับมาขายอีกที แต่ก็แค่ถามว่าเขารู้จักไหมเท่านั้น ไม่คิดว่าจะมีขายหรอกค่ะ
การเรียกชื่อกล้วยไม้ตามตำราจะขึ้นต้นด้วยสกุลก่อนและตามด้วยชื่อ

มีการจัดพิมพ์แสตมป์สะสมรูปยงจุนในภาพ winter love song จำหน่ายที่เกาหลีและญี่ปุ่น ในปี 2005

ในปี2549 ยงจุน ถูกบรรจุลงในตำราเรียน ที่ญี่ปุ่น และไต้หวัน
ส่วนที่ประเทศเกาหลีเอง
Chosun Daily]3/27/08 00:33
We came to be able to see names of 'Cho Yongpil', 'BYJ' and 'Choi Kyeonogjoo' in a history book now.
'Alternative Textbook Korean Modern and Present History' by Textbook Forum gets attention as it showed 'extraordinariness' of describing popular culture history after 1970~1980 which was rarely dealt in past Korean modern history books. ………..
The textbook defined that "The Hallyu is favorable feeling or hot wind toward Korean culture that began in China and Southeast Asia since latter half in 1990th, and spread worldwide," and evaluated that "It is not traditional culture itself, but Korea's present era culture that was newly discovered and reconstructed in globalization."


และยงจุนมีหุ่นขี้ผึ้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ madam toussaud ที่ฮ่องกง

เบ ยองจุน ผู้ชายธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เป็นผู้ชายที่สุดพิเศษ

ยงจุนเป็นเหมือนแสงตะวันยามอรุณรุ่ง ส่องสว่าง ละมุนละไม เห็นแล้วก็ชื่นตา มองแล้วก็ชื่นใจ อบอุ่น อ่อนโยน ยงจุนไม่ใช่ the star หากแต่เป็น The Sun ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวในโลกนี้


และนี่คือ “ Man, every one know….

Bae Yong Joon ผู้ตั้งมั่นในปณิธาน ว่า ASIA IS ONE.

เบ ยองจุน ผู้ชายที่ มีเรื่องราว น่าตื่นเต้น ตรึงใจให้ติดตาม มากกว่า เทพ แห่ง โอลิมปัส ทุกองค์.
..................

ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอาทิตย์ที่11 /12/2548
มี column แบยองจุน ชายอบอุ่นในสายลมหนาว
เล่าว่าคุณแม่ของยงจุน ตอนที่ตั้งท้องยงจุนคุณแม่ฝันเห็นแอปเปิ้ลสีฟ้า และได้ลูกชายหล่อเหลาคนนี้มาสมใจเมื่อวันที่29 สิงหาคม 1972 และเขียนรายละเอียดที่ชื่นชมยงจุน ในหนังสือ(มีชื่อคนเขียนค่ะเป็นที่รู้จักกันดี) หนังสือ hot movie ฉบับ แดจังกึม เล่าถึงสุดหล่อจากเกาหลี (ก็ยงจุนนี่แหละค่ะ ) เล่าว่ายงจุนเกลียดการถูก หยิกแก้มเป็นที่สุด และหากใครพูดว่าเค้าน่ารักเขาจะเกิดอาการอยากอัดคนๆนั้นทีเดียว ลงประวัติและเล่าเรื่องสั้นๆของยงจุน บอกว่าตอนเรียนหนังสือยงจุนเป็นหนอนหนังสือ และเป็นนักกีฬา เล่นกีฬาได้ทุกชนิด เป็นเด็กที่ไม่เคยเกเรและเป็นศิษย์รักของครูทั้งหลาย ( p 32- p35 )

ใน Ming Xing Aug 06
พูดถึงรายได้ดาราเกาหลีสุดฮอต โดยบอกว่าสื่อมวลชนของเกาหลีเปิดเผย อันดับรายได้ของดารา โดยเขาแบ่งรายได้ดาราออกมาเป็น 4 ระดับ ดาราที่ได้รับการจัดอันดับว่าร่ำรวยที่สุดคือเบยองจุนนั่นเองผลงานในหนังโรแมนติก หลาย ๆเรื่องของเขาสร้างให้เกิดกระแสเกาหลีฟีเวอร์ขึ้นในญี่ปุ่นอย่างล้นหลามมาจนถึงตอนนี้ ถึงปีที่แล้วจะมีผลงานของเขาออกมาให้ชื่นชมไม่มากแต่ความโด่งดังของเขาก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย เริ่มจาก APS ที่เขานำแสดงสามารถสร้างรายได้ ถล่มทลายที่ญี่ปุ่น ตามมาด้วยโฆษณาอีกหลายชิ้น จนถึงตอนนี้ เบยองจุนได้ถือหุ้นในบริษัทแล้ว และยังได้เป็นผู้อำนวยการสร้างผลงานหลาย ๆเรื่อง เช่นภาพยนตร์ ที่ Rain นำแสดง และละครที่ คิมอีซุน นำแสดง นอกจากนี้เบยองจุนยังไปเปิดร้านอาหารที่ญี่ปุ่นซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก เขาก็เลยได้เป็นดาราเกาหลีที่ร่ำรวยที่สุดไปโดยปริยาย ( ไม่บอกว่าหนังและละครเรื่องอะไรค่ะ) และท้ายเล่มเดียวกัน พูดถึงภัตตาคาร กอริลล่า 1 หน้า ขอตัดตอนมานะคะ โดยส่วนตัว เบยองจุน เองนั้นค่อนข้างพิถีพิถันและให้ความเอาใจใส่ในเรื่องสุขภาพและโภชนาการ นอกจากรสชาติสีสันของอาหารจะถูกออกแบบโดยพ่อครัวแล้วที่นี่ยังได้นำเอานักโภชนาการรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารร่างกายมาร่วมพิจารณา และออกความเห็นอีกด้วย โดยเน้นในเรื่องคุณค่าทางสารอาหารที่สูง แต่แคลลอรี่ต้องต่ำ ภัตตาคารนี้ตบแต่งด้วยสีขาวสุภาพ อาหารของที่นี่จะไม่ใช้เนย ไม่มีอาหารประเภททอด มีการควบคุมปริมาณของเครื่องชูรสต่างๆอย่างเคร่งครัด ไม่ใช้น้ำตาลทรายแต่หันมาใช้น้ำผึ้งและน้ำตาลจากต้นเมเปิ้ลแทน (ยงจุนมีความหลังเรื่อง น้ำผึ้งและน้ำตาลในวัยเด็ก ที่น่ารักค่ะ) และหากลูกค้าคนใดมาใช้บริการครบ 3 ครั้งก็จะได้รับสิทธิ์เป็นสมาชิก โดยทางร้านจะจดบันทึก ส่วนสูง น้ำหนัก ไขมัน ความดันเลือด รวมทั้งคอยดูแนะนำอาหารและวิธีการออกกำลังที่เหมาะสมให้กับลูกค้าสมาชิกด้วย นอกจากบริการต่างๆที่กล่าวมาแล้วเมนูอาหารของ กอริลล่า ก็ไม่ธรรมดา เพราะรายการอาหารทุกอย่างจะต้องมีคำว่า human และ Gorilla ลงท้าย เพื่อแบ่งปริมาณของอาหารเป็นสองกลุ่ม กล่าวคือปริมาณอาหารที่ผู้หญิงรับประทานนั้นจะน้อยกว่าผู้ชาย ก็จะใช้คำว่า human เพื่อชี้ให้เห็นว่าเป็นปริมาณที่ลูกค้าผู้หญิงรับประทาน ส่วนคำว่า Gorilla ก็จะเป็นปริมาณที่ลูกค้าผู้ชายรับประทาน จากบริการและไอเดียการออกแบบต่างๆของร้านทำให้เราเห็นถึงความขยันและเอาใจใส่ ของ เบยองจุน ที่มีต่อภัตตาคาร (เป็นไงคะ ) ภัตตาคารนี้มีมาตรฐานและบริการที่ดีเลิศจริง

ภาพ 2 หน้า น่าจะเป็นนิตยสาร เฉพาะกิจ เพราะไม่เคยเจอเล่มอื่น ๆอีก ไม่ระบุว่าเล่มที่เท่าไรด้วย ชื่อ Asian Star Variety เบยองจุน...พระเอกดังจากละครยอดฮิต “รักแรกสุดหัวใจ... รักสุดท้ายมิอาจลืม ..”
มีประวัติและเรื่องที่ Well Known แต่ระบุว่า คุณแม่ของยงจุนเป็นคนเคร่งศาสนา และบอกว่า ด้วยความสูงและไหล่ที่กว้าง ทำให้ยงจุนได้รับฉายาว่า ไม้แขวนเสื้อเดินได้ ที่ perfect ที่สุด (และรางวัล Super Brand เมื่อปี 2003 ก็จำไปจากหนังสือเล่มนี้แหละค่ะ) มีกล่าวถึงหนัง untold Scandal ด้วย โดยบอกว่าดัดแปลงบทมาจากนิยายฝรั่งเศสที่เคยสร้างหนัง Dangerous liaisons แต่ได้ดัดแปลงให้เหมาะสมกับความเป็นเกาหลีย้อนยุค เป็นเรื่องราวของ ความรัก ความแค้น การทรยศ ที่ไม่อยู่ภายใต้ยุคสมัย เวลาและสถานที่

ในปี 2004 ยงจุนได้รับรางวัลนักแสดงชายแต่งกายยอดเยี่ยม จากบรรดาห้องเสื้อในญี่ปุ่น จากการให้คะแนนของบรรดาห้องเสื้อในญี่ปุ่น ซึ่งงานนี้จัดขึ้นที่โรงแรม โตเกียว โดยสมาพันธ์แฟชั่นเสื้อผ้าผู้ชายของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรวมเอาผู้ผลิตเสื้อผ้าสำหรับบุรุษเข้าด้วยกัน (ที่น่าสนใจ เพราะคราวนี้เป็นเรื่องในวงการของบุรุษ ไม่ใช่สตรี ญี่ปุ่นนะคะ ดาราชายญี่ปุ่นถูกยงจุนแซงโค้งขึ้นหน้าอีกหนหนึ่ง) หนังสือนี้น่าจะพิมพ์ในช่วงที่ละคร first love on air ที่บ้านเราช่อง 7 ตอนเช้าน่ะค่ะ

ยงจุนพิถีพิถันกับเสื้อผ้าและผ้าพันคอ มากเลย ใน wls

Stylist ฮอง ช่างเข้าใจ จัดตรียมเสื้อผ้ามากเลยสงสัยค่ะว่า....เตรียมฉากก่อนแล้วจัดเสื้อผ้า หรือ มีเสื้อผ้า ก่อนแล้วจัดฉากให้เข้ากัน เพร่าะ แต่ละชุด เข้ากันได้ดีกับฉาก และก็ไม่ดาราคนไหน และซี่รีส์เรื่องไหน ที่ เคยดูมา จะผูกผ้าพันพันคอได้เท่ห์มาก 12 แบบไม่ซ้ำกันด้วย

ดอกไม้ประจำชาติเกาหลี คือ โรส ออฟ ชารอน หรือ ดอก มูกุงฮวา จะบานสะพรั่งทั่วประเทศระหว่างเดือน กรกฎาคม ถึงตุลาคม ดอกไม้นี้ไม่เหมือนดอกไม้ชนิดอื่น คือสามารถทนสภาพอากาศที่เลวร้าย และศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี ความหมายของ มูกุงฮวา มาจากรากศัพท์ มูกุง ซึ่งหมายถึงความเป็นอมตะ คำ ๆนี้สะท้อนความเป็นอมตะของประวัติศาสตร์เกาหลี ความมุ่งมั่น และความอดทนของชาวเกาหลี

ชื่อเต็มของชาวเกาหลี จะประกอบด้วย ชื่อสกุล 1 พยางค์ และชื่อหน้า 2 พยางค์ ชื่อสกุลจะเขียนก่อน สตรีชาวเกาหลีจะไม่เปลี่ยนชื่อสกุลตามคู่สมรส แต่บุตร ธิดา จะใช้ชื่อสกุลของบิดา กับข่าวล่าสุดว่ายงจุนยังไม่มีผู้หญิงจะแต่งงานด้วย แล้วเมื่อไรเราจะได้เห็นสายเลือดที่เป็นยงจุนน้อยจริงๆกันเล่าคะ เฮ้อ.. อยากเห็นค่ะ ต้องน่ารักมากๆเลย

ภาษาเกาหลีจัดอยู่ในกลุ่ม ยูราล-อัลเตอิค เช่นเดียวกับภาษาฮังกาเรียน ตุรกี มองโกเลียน และฟินนิซ ตัวอักษรของเกาหลีเรียกว่า ฮันกิล


นิรันดร นี้นานนัก แต่รักนี้นานกว่านั้น .... (จาก ดั่งดวงหฤทัย ของ ลักษณาวดี)

ขอลอก ประโยคนี้ เพื่อมอบให้ เบ ยองจุน แต่เพียงผู้เดียว

Sunday, August 3, 2008

เบื้องหลังละครตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ ต่อ 2

มีข้อมูล ที่ไม่เกี่ยวกับ GKFG แทรก เรื่องหนึ่ง คือ ในช่วง ที่เบ ยองจุน ออกทัวร์ โปรโมท ภาพยนตร์ APS นั้น เบ ยองจุน ไปประเทศจีนด้วย และได้รับการต้อนรับ ที่ยิ่งใหญ่ ไม่แพ้ ประเทศ อื่น
ในวันที่ 23/01/06

เบ ยองจุนได้ ขึ้นหน้าปกนิตยสารแฟชั่น COSMOPOLITAN เวอร์ชั่น พิมพ์จีน นี่เป็นครั้งแรก ที่นิตยสารฉบับดังกล่าว นำนายแบบผู้ชายมาขึ้นปก ตั้งแต่มีนิตยสาร COSMOPOLITANT C[y[0uo ouhwfhdjv9yh’ .oxu 1998 เป็นฉบับต้อนรับวันวาเลนไทน์ มีภาพ และการสัมภาษณ์ เบ ยองจุน
จากข้อมูล ของ BOF นิตยสารฉบับนี้ ได้ตีพิมพ์เรื่องราว ของ เบ ยองจุน ในมุมของนักแสดง ในขณะที่ยังมีการกล่าวว่า เบ ยองจุน มีส่วนช่วยให้ ประเทศเกาหลีได้มีค่า GDP ( ผลิตภัณฑ์มวลรวมของชาติ ) เพิ่มขึ้น 0.18 % และส่งออกสินค้าที่เกี่ยวกับ เบ ยองจุน และภาพยนตร์ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 พันล้าน ของผลรวมส่งออกของประเทศจาก 21.7 พันล้านดอลล่าร์ ในปีที่แล้ว.


16/03/06

ที่มีการทำพิธีบวงสรวงที่เกาะเชจู โดย Joon family

มีคำสัมภาษณ์ นักแสดงคนละเล็กน้อย

BYJ, who acts as Dam deok, spoke about long-waited GKFG, "I am glad to be altogether with the director and other actors. It was a meaningful time. I am looking forward to the success of this drama, I am a bit anxious, also. I hope all the staff to be in good condition without any accident. I will do my best to the last moment."

Park Sang Won (acting as Yon Ga Ryo) said, "The shooting begins at last. I am expecting this place to become a great studio within several months. I hope everyone to have a good start."

Park Sang Myun(acting as Joo Moo Chi) said, " I am glad that the shooting has started. I am very glad to work with great actors such as BYJ, Park Sang Won, and Choi Min Soo. I am also glad to work at this wonderful island Jeju."

Yoon Tae Young(acting as Yon Ho Gae) said, " I've prepared about 2-3 months for GKFG. It will be a hard task, but I think I will learn a lot. Let's do our best."

Lee Da Hee(acting as Gak Dan) said, " I prepared a lot. I feel strain, but I am expecting a lot. I will show you my best performance."

23/03/06

Construction of GKFG Set Finally Goes on Track (Jeju Yonhap News (21/3/2006)

Original in Korean: Jeju Yonhap News 2006/03/21Translated into English: Happiebb / www.happiebb.blogspot.com

After the above news broke, the production company shared the following information about what the main set comprises:
- palace set 3,868 sq. m.
- village where the aristocrats lived 766 sq. m.
- main streets or activity thoroughfare 1,274 sq. m.
- outskirts 1,274 sq. m....
the company revealed that the construction of the main set has to be completed latest by july.


Hanryu Star BYJ Marches into GKFG Shooting
original in korean: woman sense

2006/05/08

translated into english: happiebb / www.happiebb.blogspot.com

Great King Four Gods [GKFG],
the drama that has been sensationally reported even before production began, has finally, officially started filming.
……………………………….This is the main character in the drama, Bae Yong Joon's return to the small screen some four years after Winter Sonata. In order to portary the powerful and informidable Great King in the drama, Bae Yong Joon had put on 5kg of weight. Right from the beginning of the year, Bae Yong Joon had immersed himself to prepare for his role; he has been exercising and sculpting his body as well as practising horseback riding. He has no plans to use a stuntsman and will instead play the rather difficult scenes of shooting or fighting whilst on horseback. Therefore, he has to prepare himself both physically and mentally prior to the commencement of the shooting.

GKFG first came to the public eye in September 2004. Its story was initially based on Tarentoko Hyonjon's work. However, whilst the team was still exploring the possibilities for the story, the media came to learn about it prematurely.

Not long after, even before the cast was decided, the production team called for a press conference. After the press conference, most of the market talk and online talk were speculation about the male and female leads for this 30 billion korean won [US$32m] drama production.

Bae Yong Joon was the first male character to be decided. As for the female lead, it appeared the production team had a hard time casting the role. Eventually they decided on an open audition, they would use a newcomer to act opposite Bae Yong Joon as his love interest Suzeeny. However, up to now, even though shooting has started, the role of Suzeeny remains undecided.

In January 2006, movie actress Moon So Ri accepted the role of Seo Ki Ha and added her name to the cast. Thereafter, on 16th March 2006, the crank-in ceremony was conducted in Jejudo, and it marked the start of the shooting.

Another topic of interest is Bae Yong Joon's appearance fee for each episode. However, in showbusiness, it is understood that the toppest of top stars cannot and will not have their appearance fees revealed. Therefore when Bae Yong Joon put his name on the contract, he added a clause: Regardless of which party, he or she will have to pay a fine if he or she discloses the appearance fee. With regard to this, industry people have made a conservative estimate of about 30m korean won [US$32,000] per episode.

On the other hand, Bae Yong Joon has become a hot topic of late due to the sharp rise in the share price of a company he has acquired, resulting in him becoming a 'paper billionaire' [100 billion korean won, or US$107m]. On 23rd March 2006, Bae Yong Joon invested 9 billion korean won [US$9.6m] via his agency BOF into a KOSDAQ-listed company Ottowintech [it has since been renamed KeyEast]. His investment translated into 1.447m shares or 37.5% of the company's total shares.

The share price has soared to become the faste

เมื่อวันที่ 16/05/06

BOF บริษัทเอเยนซี่ ของ เบ ยองจุนได้เปิดเผยว่าได้เกิดไฟไหม้ที่อพาร์ทเม้นท์ของ เบยองจุน ในย่านซัมซองว่า
เมื่อวันที่ 7/05/06 เกิดไฟไหม้บ้าน เมื่อช่วงเวลา 2 ทุ่ม สาเหตุจากการที่ไฟฟ้าลัดวงจร
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากสถานีดับเพลิงเขต กังนัม ได้มาถึงที่เกิดเหตุและสามารถควบคุมไฟให้ดับลงภายในเวลาประมาณ 30 นาที สำหรับมูลค่าทรัพย์สินจากเหตุไฟไหม้ครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 10 ล้านวอน แต่ในช่วงเวลานั้นไม่มีผู้ใดอยู่ในบ้านจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใดๆ
BOF ได้เปืดเผยข่าวนี้ ใน โฮมเพจของ เบ ยองจุน ว่า ไฟไหม้ที่บ้านพักของ เบ ยองจุน เนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามเป็นที่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเนื่องจากไม่มีใครอยู่ในบ้าน ณ เวลา นั้น กรุณา วางใจได้

จาก KBS GLOBOL
Nocut News5/16/06 ( ตัดย่อมาบางส่วน)

According the report by exclusive scoop by newsgathering crew of 'Entertainment News' on DMB 1to1 channel, a ground wave of the CBS, at around 8:30 PM on May 7, there broke a fire in a G apartment house in Samseong-Dong, Kangnam-Ku where BYJ was living.

It was confirmed that fire was put out in 30 mnutes as firemen and fire engines belonging to the Kangnam Fire Station turned out by reporting it to an emergency number (119). The Kangnam Fire Station told that 'BYJ himself did not call us but we turned out as other person reported it,' and 'There was not a personal damage at all and as bed and a part of furniture in a bedroom were burnt so that the damage is abouat 10 million won.'

Since May 7, BYJ does not stay in the house where the fire broke at present and it was known that he is staying in a five star hotel in Seoul.
………………………..
Regarding the fire that broke in the afternoon on the past 7 in an apartment house in Samseong-Dong, Kangnam, Seoul, which he had used as his workroom in ordinary times, BYJ asked his fans, 'I was not on the site at that time so that I was not hurt. As I do not have any problem with my health, please do not worry.'

An official at the management company of BYJ told on 16, 'The apartment house that caught fire was the place where BYJ used as his workroom as well as resting space in ordinary times, and although bed and furniture etc. were burnt due to fire from electricity, as BYJ wa

18/05/06

"Is May the month taking the edge off an evil fortune(?)", BYJ injured ankle following the house fire[Good Day] 5/18/06

Meanwhile, regarding the fire that broke ont in his home on 8, BYJ told, "Fortunately, the situation was that there was no one in the home, and because it was put out soon after burning only one room, the damage was not big," and "I did not tell about it intentionally as I was afraid that people might be worry about it. However, as it was reported, many people made telephone calls worrying about it." ( เบ ยองจุน ห่วงใย ครอบครัว BYJ เสมอ )

The home in Samseong-Dong, Seoul, where the fire broke out in this time, is the place BYJ newly moved in around February. BYJ is living in the living room of that home (without moving out) until the burnt place is repaired.
He laughed saying, "My main home where my parent live is troublesome for moving around as it is away from Seoul, and yet, if I stay in a hotel, it will be inconvenient to other guests because of me, and also I feel that I also would not feel comfortable as in my home so that I just sleep in the living room spreading a mat."

Continuing on, BYJ told, "I experienced a fire in my home for the first time in my life, and including injury to teh ankle, etc., I experienced many things strangely in this month," and "Even then, people around me encourge me saying, 'You took the edge off an evil fortune with the big event ahead of me' and 'When one sees a fire or suffer from it lightly, it is a good omen for the big hit'. "


[Entertainment District 25 o'clock]Is this a signal shot for big hit of the 'Tae Wang Sa Shin Gi'?

[Sports Chosun] 5/18/06 10:19


'Tae Wang Sa Shin Gi' BYJ, fire in workroom
★…Is this a signal shot for the big hit of the 'Tae Wang Sa Shin Gi'? As the fact is known that a workroom of Yon-sama BYJ suffered damage worth at 10 million won recently due to fire from electric leak, the atmosphere in the business circle is to take it as a good omen.


Ordinarily, there are cases where accidents occur that take the edge off an evil fortune before the big (box-office or viewing rate) hits are made is made, and they are saying if the 'Tae Wang Sa Shin Gi' is also walking such course. Although BYJ kept everything about the fact in secret even to the office family in his management company right after the accident because he was afraid that it might cause unnecessary worries among his domestic and overseas fans, after it was reported, they say it was given special prominence in newspapers in Japan.

They say BYJ is staying in his parent's home located in Hanam, Kyeong-gi Proviince for a time being. Although BYJ is talked about as filial son even in ordinary times, because it will be difficult for him to visit (his family) when the full-scale shooting of the drama begins from June, it seems to become an opportunity of the good coming out of evil anyway for him to be able to do filial duty.
Copyrights ⓒ Sports Chosun

Bae Yong Joon Wows Fans at Madame Tussauds Hong Kong
5/17/2006
source ~ etravelblackboard, Australia's leading Industry Newsletter
……………………
Highly acclaimed Korean actor Bae Yung Joon took his place in history as Madame Tussauds Hong Kong officially unveiled his wax figure before his adoring fan club in a private ceremony held at The Peak.…………………………
.Bae is the first Korean star to be honored with a Madame Tussauds wax figure anywhere in the world and over 100 fans – some traveling from as far as the USA, Canada, PRC and Japan - were in attendance to witness the moment.

GQ Interview

Original in Korean: GQ, June 2006 edition

เป็นการให้สัมภาษณ์ที่ ครอบครัวยงจุน สะท้อนใจ มาก กับ การไร้ อิสรภาพ ของ เบ ยองจุน สัมภาษณ์ยาวมากเลย มีในส่วน ที่ให้สัมภาษณ์การใช้ชีวิตประจำวัน ที่ เบ ยองจุน ให้เวลา ส่วนใหญ่ของแต่ละวัน กับการเตรียมการ เพื่อ TWSSG

Q: Then let us hear what the daily schedule is like, for the Bae Yong Joon who has no fear...

YJ: It’s always the same, nothing fresh or interesting. I wake up in the morning, start exercising after breakfast. Recently, I only do body sculpting exercises for about an hour or so. That’s because I’ve to go through horse-riding and martial arts training for GKFG. Then I will go into the office to have a look, and discuss about the new drama. And then just as you already know, I also have to check on the business aspect.

30/06/06
From Official Board posted and translated by Myonne
YJ article in Brokore Magazine No.5
…………………
He brings a small lunchbox anywhere he goes. He never eats thoughtlessly and leads a regular life. No, he cannot eat thoughtlessly and can do no other than lead a regular life.Because his body is not a thing only for him. In the heart of this writer, there co-exist various feelings, such as a heart of his ‘family’ who is anxious about him, a heart of a director who wants to cast him, a heart of a plunderer who wants to deprive him of something, a heart of a woman who yearns after him, and a heart of a critic who wants to evaluate him objectively. His face, his body, and his mind have to respond to all such gazes.

2/07/06

From official Board translated by Joanne

Wurineunmafia posted this news.The drama 'Tae Wang Sa Shin Gi' is not a plagiarized article [Yonhap News] 7/2/06 09:03
……………………………………..
The Judge Heo Seongwook, single-judge Civil 43 Court in Seoul Central District Court revealed on 2 that he has given a judgement against the plaintiff in a lawsuit asking for damage compensation, claiming that the drama 'Tae wang Sa Shin Gi' has violated a copyright of a comic book 'Nation of Wind', which was brought on by Mr. Kim Myoseong, comic artist of the original comic book, against Ms. Song Jina, writer for broadcasting.

The judge told in his decision that 'Although the two writings have similar points in some parts in rough story-lines and characteristics of the characters, it is difficult to see that there are 'substantial similarities' as the synopsis, a writing by the defendant, is not the final writing but an arrangement of outlines of a drama scenario which she is to write in the future, while the book by the plaintiff is a comic book in completed form that was published as a book.'

The judge explained, 'EVen if the synopsis by the defendant is the secondary writing that could violate copyright of the plaintiff, historic facts are public domains which one cannot see that it belongs to any one writer's copyright, even if (defendant) used the same historical background and facts, one cannot see that as violation of copyright.

'The 'Nation of Wind' and the 'Tae Wang sa Shin Gi' have storyline with Kogooryeo Period as its background that four characters who are related to Gods would appear and head toward God City centering aroound a king chosen by them.


Mr. Kim, comic artist sued against writer Song Jina claiming damage compensation in June last year, saying that MBC history drama 'Tae Wang Sa Shin Gi', which began shooing recently with seveal tens of billion won production cost, 'had violated cipyright.'

สรุปใจความที่คุณ ร้อยตะวันเล่าไปแล้ว

06/07/06

[Sports Hankook]7/6/06 07:09

'BYJ'S COSTUME', THEY SPEND AS MUCH AS HIS FEE…EOK(100 MILLION WON)!,EOK!EOK!

The Great King Kwang-gae-to in 'Tae Wang Sa Shin Gi', expense for props only is at 300 millionth (won)...'Super-class investment' including costume price at 30 million won & sword at 20 million won.

'Yon-sama' BYJ has finished preparation for a sally for much-talked about history drama 'Tae Wang Sa Shin Gi'(Script by Song Jina. Directed by Kim Jonghak) assuming magnificent appearance of ultra-luxurious The Great King Kwang-gae-to.
As a decision was made for BYJ to join the shooting of the 'Tae Wang Sa Shin Gi' on 20 at an open set in Jeju, cost for the props that will adorn BYJ alone was known to be over 300 million won. The props such as costumes, swords, personal ornaments, horses, etc. whicb BYJ will use in the drama, are made up in the highest quality to fit for status of BYJ, the star getting the highest fee in Asia.

BYJ recently finished fitting work for production of costume, and the production cost for 5 pieces of basic costumes he will wear in the 'Tae Wang Sa Shin Gi' reaches at 30 million won a piece on average. In keeping with spirit of the Geat King Kwang-gae-to who commands the Manchuria, (the costumes) will be made with best fabrics and adorned with best decorations.

Also, BYJ will wield 5 swords when he acts the Great King Kwang-gae-to(Damdeok) and those are also the top quaility ones with their average production cost reaching at 20 million won each. Those swords to be made of special alloy as its material will be decorated with jewels on their handles and body so that they will stand for luxurious maginificent air of the Great King Kwang-gae-to.

The horse BYJ will ride on in the drama also is expected to be a fine horse at the level of racing horse, which is different from general history dramas. Although they use old and infirm horses who have just over one year its remaining life span in ordinary history dramas, the production crew of the 'Tae Wang Sa Shin Gi' will utilize a superior horse that is suitable to the status of BYJ for the shooting. It is expected that the purchase cost for the horse alone will be priced at 50 million won.


07/07/06

Tigger mom posted this on the Talk Box of BYJ's official home.
และ Tiffany post ที่ Quilt เมื่อ 07/07/06
BYJ's lady, fierce war of nerves[Sports Seoul] 5/3/05 14:20
Who will be BYJ's lady?
………………………………………………
It is the same for the production company that the decision is not easy. Lee Cheolhee, a board director, in charge of comprehensive management the situations associated with 'GKFGS' at the Cheongam Entertainment. co-producer, told, "we have not yet cast 'Soo', King Ahshin in Baekje, who will lead the drama along with BYJ (Great King Kwang-gae-to).

We plan to decide another male main actor first and after that we will decide on 'Soojeeni' main female character who will form a triangular relationship with two men.

Regardless of intention of the production company and lady stars, there are Koh Hyeonjeong, Shim Eunha, Ha Jeewon, Kim Taehee, etc. as a leading lady character mentioned by netizens and entertinement people on the basis of drama synopsis which has been made public.

Mr. Byeon Jongeun, CEO at the Wellmade Entertainemnt, agency of Ha Jeewon, told, "it is true that we received the synopsis and are examining it deliberately.

However, it is difficult to make hasty decision as it is a work we have to invest time for a pretty long period of time for production before airing it. We plan to agonize over it with some more time."

18/07/06

Yon-sama is Mine after the Completion of his Shooting “April Snow”
Lee DaHae Rising as Bae YongJoon’s Partner in
Ahn EunYoung of Metro newspaper, 18/07/2005
……………………
Bae YongJoon’s Next Lover is Lee DaHae ???
…………………
Kim JongHak and Song JiNa of , as a team, co work in this drama,in which Bae YongJoon will play a role of DamDuk as a hero and embody the dramatic life of the King GwangGaeTo.
If the casting of Lee DaHae is decided, she is prospected to be born again as a heroin of historical fantasy melodrama. There she will play a role of Suzeeny with a sad destiny who would be in a triangle relationship with Great King GwangGaeTo, BaekJae’s King Ashin as a strategist, and her.

12/07/06

BYJ, in the middle of test shooting of the 'Tae Wang Sa Shin Gi'
[Star News]7/12/06 08:23
Continuing on, regarding the body building for the character of the Great King Kwang-gae-to, he explained, 'In this drama, he did not build body to show in particular,' and 'He built the best body condition for the drama.'
On the other hand, the drama 'Tae Wang Sa Shin Gi' appearing Chung Jinyoung, Choi Minsoo as well as BYJ, is scheduled to be aired on MBC early next year.

จะมี ชื่อ Chung Jinyoung ซึ่งแต่เดิม วางตัวละคร ที่จะแสดงเป็น ฮยอนโก

19/07/06 ใน QYILT

Translated by Joanne
Serene posted this on the Freeboard of BaetomisaCafe on Daum.net.
BYJ, plays 3 characters in 'Great King Four God Story'.
.. Haemosoo, Ko Joomong, & Great King Kwang-gae-toe
[Star News]8/5/05 21:33

ผู้กำกับคิมจองฮัก เปลี่ยน พล๊อตละคร ดังรายละเอียด

Top star BYJ will play 3 roles in the drama 'Great Kiing Four Gods Story'(Script by Song Jina, Directed by Kim Jonghak) which will begin production aiming at airing in September in next year.

Kim Jonghak, CEO of the Kim Jonghak Production, the director of this drama told, "BYJ will play 3 characters for one actor as he would appear as Haemosoo and Ko Joomong in the first and second episode, respectively, and play character of adult Great King Kwang-gae-toefrom 5th episodes on." in an informal friendly chat with reporters held in a restaaurant in Apgoojeong-Dong in Seoul in the afternoon on 5.

CEO Kim Jonghak explained, "Different from the initial planning, we will take out Baekjeportion from the drama and will plan to concentrate stroy on Kogooryeo and China portion." Continuiing on, he added, "We plan to deal with the myth of foundation of our country among Tangoon myth in the first and second episodes in the fantasy form, and BYJ will appear at first as Haemosoo who was born with spirit of sun as a decendent of Tangoon. Following that, he will show the circulating appearances* (*SAMSARA in Buddism) as Ko Joomong, and Great King Kwant-gae-toe."

Also, CEO Kim Jonghak told, "Other major casts are also make rotation(Samsara) in the drama, " and expressed his aspiration for the producing (drama0 by saying, "Through this drama I will let children learn with fun about myth of foundation of our country they read in books. For that, we are also preparing for holograms."


19/07/06

ใน Quilt ได้เสนอข่าวจาก Yonhap News]8/5/05*
Kim Jonghak PD,
"'Great King Four God Story' to air its premiere simultaneously in over 90 countries"

( ยังเป็น GKFG อยู่ เพราะ เป็นข่าวย้อนมาจาก 5/8/05 )

"We are thinking to air the first episode of the drama 'Great King Four God Story' ('The Story' from now on) simultaneously in over 90 nations. We are firmly determined to invest even upto 50 billion won for the total production cost."


BYJ will play 3 roles for one person including Haemosoo & Joomong in addition to main character Great King Kwang-gae-toe. Actor Jeong Jinyoung was cast as Hyeongo character, the head of the Four Gods, and Choi Minsoo plans to make a friendly appearance as Yeon Garyeo, father of Yeon Hogae, rival to Great King Kwang-gae-toe. I will be filmed from September to June next year as pre-broadcasting (completion of ) production system and it will be aired around September next year.

เบ ยองจุน ใน 3 บทบาท คือ แฮมูซู จูมง และ กษัตริย์ กวางแกโต ส่วนJeong Jinyong จะรับบทบาท ฮยอนโก ชอยมินซู ที่ยังไม่บอกว่า เป็นตัวละคร ชื่อ อะไร แต่ คู่แข่ง ของกษัตริย์ กวางแกโต เปลี่ยน จาก กษัตริย์ อาชิน เป็น ยอนโฮแก บุตรชาย ยอนการรยอ แทน และละครนี้ จะสื่อ ไปที่ 90 ประเทศ ทั่วโลก


และพูดถึง ทีมงาน spepcial effect ว่า เป็น ทีม Staff from WETA, จาก ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง และ For the computer graphic production in the first and second episodes alone where we will reproduce myth in imagination with real picture, close to 3 billion won of money will be put it. It will cost 10 billion won for the computer graphic alone, " and "From working jointly with WETA staff, we will receive thier technology know-hows."

และพูดถึงการฟ้องร้องว่า He also made clear about the dispute of flagerism surrounding 'The Story'. He explained that "the idea of 'personification of the Four Gods', 'story of looking for God City(神市)' raised by cartoon 'Nation of Wind' people are not the subject of dispute. The first synopsis in the last year, they are making problem with even so, also changed its content greatly by now."

On the other hand, since the casting, BYJ is sticking to horse riding and practicing swardsmanship. Kim PD told, "I agree with BYJ on not using stuntman if he could possibly do it. BYJ is positive to the extent of showing his thought, 'I will buy a personal horse from the beginning for the practice in horse riding'."

19/07/06 ใน QUILT

Translated by Joanne
Kwon Ohkyeong posted this on the Talk Box of BYJ's official home.
3im Jonghak PD, "BYJ was a god in Japan" [Herald SaengSaeng News]8/6/05 11:08


…………………………, Kim Jonghak PD, director of 'Great King Four Gods Story' express his surprise saying, "frankly speaking, although I knew that BYJ is popular among Japanese, I did not know it was that extent," and "when I went to Japan, BYJ was not a human being but a god."

Kim PD told about his experience in local Japan where he recently visited saying, "Not only BYJ shrine was built but also a chair BYJ sat down was permanently preserved, and when I said I was the director of the 'Great King Four Gods Story', the Japanese told, 'what an honor on earth like that as you direct Yon-sama's work.'

On the other hand, regarding the reason for casting BYJ as the Great King Kwang-gae-toe, main character of the 'Great King Four Gods Story', Kim PD told, "BYJ is sincere and wonderful actor, " and praised, "For example, as soon as he finished talking with me about Great King Kwang-gae-toe, he right away headed to horse riding club to learn riding orses, and later on he would say 'I am considering to buy a horse from the beginning'-to that extent, he is an actor different from others in his attitude toward work.

The 'Great King Four Gods Story' willbe shot from September to June of next year with aim at complete production before airing and is to air for the first time in around September next year.


19/07/06

Jeong Jinyoung, to challange drama as BYJ's 'right arm'
[Star News]8/8/05 12:11

Film actor Jeong Jinyoung will challance drama acting as BYJ's 'right arm'. Jeong Jinyoung will appear as Bookhyeonmoo(North Black Turtle(?)) Hyeongo, status of head of 'Four Gods'(四神) in the 'Great King Four Gods Story'(Script by Song Jina, Direction by Kim Jonghak), and will take the role of awakening rest of Four Gods, leading them, and helping leading character Damdeok(played by BYJ).

Hyeongo, Jeong Jiniyoung is to play, is a role, who will keep staying next to BYJ in drama like shadow and help him, although they bicker each other, and it is a character having both wit and wisdom

Saying, "As this is weighty role over the entire drama, we cast with the most emphasis on the acting capability," the Cheongam Entertainment, the producing company explained the background of the casting, "We thought Jeong Jinyoung, having shown solid acting capability in theaterical productions and films all the while, was the most appropriate."

Having been awarded the Best Supporting Actor Award in Daejong(Big Bell) Award FIlm Festival with film 'Promise'(1998), Jeong Jinyoung has appearned in many films such as 'Hwangsan Field', 'Dalma, Let's play', and 'Wild Card', etc., and 'Great King Four Gods Story' is the first one he plays a major character in drama.

A source in this drama told, "We thought (his) casting would not be easy because Jeong Jinyoung is a person with strong pride of being a film actor," and "However, he decided to appear as he has faith in the quality of drama and planning ability of making pre-broadcasting production."

Reported by Lee Gyuchang,ryan@mtstarnews.com, Money Today

แต่ ในที่สุด jeong jinyoung ไม่ได้ร่วมแสดง เป็น ฮยอนโก

Tuesday, July 29, 2008

เบื้องหลังละคร ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์















June 28 2006 09 :30 Am Rosebaba






















































































เบื้องหลัง ละคร ตำนาน จอมกษัตริย์ เทพสวรรค์
เมื่อ 21/04/2005 ใน J K dramas.com มีการเสนอข่าวว่า

เบ ยองจุน กำลังจะมีผลงานทางละครโทรทัศน์ เรื่องใหม่

เบ ยองจุน นักแสดงเกาหลีเจ้าของผลงานละครโด่งดังจาก เพลงรักในสายลมหนาว กำลังจะรับบทบาทการแสดงใหม่ในละครโทรทัศน์ “ Four legends of the great King “ หรือ “ Taewang sasingi” ซึ่งเป็นละครชีวประวัติบุคคลของกษัตริย์แห่งกวางแกโต เบ ยองจุน จะรับแสดงบท กษัตริย์ กวางแกโตในสมัยหนุ่ม ซึ่งมีชื่อว่า ทัมดัก บุคคลในประวัติศาสตร์เกาหลีซึ่งมีความสัมพันธ์ก่อเป็นรักสามเศร้ากับนางกำนัลชื่อ ซูจินี และกษัตริย์ อาชิน แห่ง แบคเจ
กษัตริย์ กวางแกโต เป็นบุคคลผู้พิชิตสงครามคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่ถูกจารึกอยู่ในรัชสมัยสามอาณาจักรเท่านั้น ( 57 B.C.- A.D.688 ) แต่ตลอดจนเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศก็ว่าได้ ในช่วงที่เขาครองราชย์นั้นอาณาจักรของเขาไปจนถึงแมนจูเรีย ซึ่งปัจจุบันเป็นของสาธารณรัฐประชาชนจีน
“ผมรู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้ร่วมทำงานกับผู้กำกับ คิม จองฮัก และผู้เขียนบทอย่างคุณ ซงจีนา ผมตัดสินใจเล่นบทนี้เพราะมีทีมงานเบื้องหลัง เก่งๆ และละครเรื่องนี้เป็นละครมหากาพย์ที่มีพล็อตเรื่อง น่าสนใจอย่างมาก “ เบ ยองจุนกล่าว

ทางด้านผู้กำกับ คิมจองฮัก ได้กล่าวถึงการเลือก เบ ยองจุน มารับบทเป็น ทัมดัก เพราะภาพลักษณ์ของเขามีความสุภาพอ่อนโยน และดูมีเสน่ห์นั้น เหมาะสมกับลักษณะนิสัยของ ทัมดัก ก็ เหมือนกับ โมนาร์ช ผู้ ที่โอบกอดทุกสิ่งรอบข้างของเขาไปด้วยความอบอุ่นและในขณะเดียวกันก็เป็นบุคคลที่ มีเสน่ห์อย่างมาก
เบ ยองจุนจะเริ่มรับงานแสดงบท กษัตริย์ กวางแกโต หลังจากที่เขาเสร็จจากการถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง April Snow ใน เดือน มิถุนายน ที่จะถึงนี้
“ บทบาทนี้จะแตกต่างจากบท อื่น ๆ ที่ ผมเคยเล่นมา ในแง่ของบทบาทที่มีชีวิตชีวาและมีเสน่ห์น่าดึงดูด ผมจะเตรียมตัวรับบทบาทนี้หลังจากที่เสร็จจากเรื่อง “ April Snow “ เบ ยองจุน กล่าว

สถานที่ถ่ายทำและนักแสดงของเรื่องนี้ยังคงอยู่ในการคัดเลือก ในการถ่ายทำ จะเริ่มขึ้นในเดือน ตุลาคม ที่จะถึงนี้ และจะออกฉายในปีหน้า อย่างไรก็ตามยังไม่ได้เป็นที่ตกลงกันว่าจะออกฉายที่โทรทัศน์ช่องใด

เบ ยองจุนได้รับการขนานนามให้เป็น “ Yonsama “ จากแฟนชาวญี่ปุ่น เขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วเอเชีย จาก บทบาทในละครเกาหลีเรื่อง Winter Sonata
เรียบเรียงข่าวจาก KBS Global และ Korea time

ความเห็น ค่ะ.

1. สมัยสามอาณาจักร( 57 B.C.- A.D.688 )
ที่ใช้ 57 B.C- A.D 688 เล่าเองก็สงสัยเอง เพราะ 57 B.C ถือ เป็น ปี ที่เริ่มต้น การสถาปนา กษัตริย์ องค์ ที่ 1 ของอาณาจักรชิลลา ซึ่ง เป็น ชนเผ่า เก่าแก่ หลายเผ่ามาก่อนตั้งแต่ อาณาจักร โคโซซอนล่มสลายเพราะ ฮั่น และอาณาจักรชิลลา น่า จะ สืบต่อมาถึง 912 ( และ 935 นับต่อ มีกษัตริย์ อีก 4 พระองค์ ถึง ปี ค.ศ 935 ) แต่ ปี 57 B. C. ก็ ยังไม่เกิด อาณาจักร โคคุเรียว โคคุเรียว นับเริ่มต้น ที่ 37 BC ส่วน อาณาจักรแพคเจ ก็ เริ่มต้นที่ 18 BC. .

ส่วนปีท้าย 688 คงพิมพ์ผิดเสียมากกว่า อาณาจักรแพคเจ ล่มสลาย ใน 660 และอาณาจักรโคคุเรียว ในปี 668
2. ตัว ละคร ซูจินี ที่ บอกว่า เป็นนางกำนัล และเป็นรักสามเศร้า กับ กษัตริย์ อาชิน คงเป็นการ ปรับเปลี่ยน บท ละคร ไป เรื่อยๆ เพราะคุณ ซงจีนา ต้อง ปรับเปลี่ยน แก้ไข บท หลายครั้ง ครั้งแรก คู่แข่ง ของ ทัมดัก คือ กษัตริย์ อาชิน แห่ง แพคเจ มีข่าว ว่า จะให้ ซงอิลกุ๊ก พระเอก จูมง รับบทบาท ซึ่งเรื่องนี้ ซงอิลกุ๊ก เคยบอกว่า ไม่ได้ รับการติดต่อ จาก ผู้ กำกับ คม จอง ฮัก แต่ อย่างใด
3. กำหนด เริ่มต้นการถ่ายทำ การ ออก อากาศ ก็ เลื่อน ออกไปหมดค่ะ

ลองติดตาม อ่านไปเรื่อยๆ นะคะ จะพบว่า ละคร เรื่องนี้ กว่าจะได้ ออกมาสู่สายตา ผู้ชม อย่างยากลำบาก ขนาดไหน ค่ะ

ในวันที่ 22 เม.ย2005 Joon family ก็ post ข่าวนี้ Tae Wang SA Shin Gi The Story Of The Great King And Four Gods วันเดียว กับ BYJtogether โดย แหล่งที่มา เดียวกัน คือ Quilt

Producer : Kim Jong-hak (PD) , Song Ji Na ( Scriptwriter) , The Sandglass, Dae Mang ( A Great Ambition ) ,24 episodes.

ในรายละเอียด ก็บอกว่า เบยองจุน รับบท ทัมดัก หรือคือ กษัตริย์ กวางแกโต มหาราช กษัตริย์ องค์ ที่ 19 ของอาณาจักร โคคุเรียว เป็นช่วงเวลา ที่ ทัมดัก มีอำนาจมากที่สุดในเอเชีย ตะวันออก ( แม้แต่ ราชวงศ์ของจีน ก็ยังพ่ายแพ้ ต่อ โคคุเรียว) เมื่อ พระชนม์ 11 ก็ ได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท เมื่อ พระชนม์16 ก็ ครองราชย์เป็นกษัตริย์ ใน ปี 396 ทัมดักไปโจมตี แพคเจ ( ซึ่งเป็น อาณาจักร อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ของโคคุเรียว) และยึดครองบริเวณไปถึงด้านเหนือ ของแม่น้ำ ฮัน และ ทรงเอาชนะการรุกรานราชวงศ์ Yeon ของจีน ทำให้ Yeon พ่ายแพ้ หลังค.ศ.400 ทรงโจมตี ปราสาท ต่างๆ เป็น ร้อยปราสาท และหมู่บ้านต่างๆ เป็นพันหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม ทรงสวรรคต ในพระชนม์ 39 พรรษา

มีการกล่าวถึง กษัตริย์ จูมง ผู้ก่อตั้ง โคคุเรียว โดยมี เทพเจ้า ทั้งสี่ Cheong-ryong ( blue Dragon )n Baek-ho ( White Tiger ), Joo Jak (Phoenix ) , Hyeon-Mu ( Simbolized as a turtle ) แต่ในประเทศญี่ปุ่น จะรู้จัก เทพเจ้าเหล่านี้ คือ Seiryuu, Byakko, Suzaku and Genbu ต่อมา กษัตริย์จูมงอภิเษกสมรกับซอซอนโนที่มีบทบาทสำคัญ ในการก่อตั้งอาณาจักร โคคุเรียว มี โอรส 2 องค์ คือ ออนโจ และพีริว แต่เมื่อ โอรสของจูมง กับชายาคนแรก มาที่โคคุเรียว เพื่อตามหาพระบิดา และได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ซอซอนโน ก็พาโอรส ทั้ง 2 องค์ ไปทางทิศใต้ ตั้งอาณาจักร แพคเจ ดังนั้น โคคุเรียว และ แพคเจ จึงเป็น เมืองพี่ เมืองน้องกัน

วันเวลา ผ่านไป เทพเจ้าทั้งสี่ได้แยกตัวจากสังคม อยู่ อย่างสันโดษและเฝ้ามองดูความสัมพันธ์ของแพคเจและโคคุเรียวที่ค่อยๆเลวร้าย (และยิ่งแย่ลงไปอีกเมื่อกษัตริย์ของโคคุเรียวถูกปลงพระชนม์ในการต่อสู้ระหว่างแพคเจและโคคุเรียว)

ในคืนวันหนึ่ง Ju –ahn ฮยอนมู(เต่า) หนึ่งในเทพเจ้าทั้งสี่เห็นดาวสองดวงปรากฏบนท้องฟ้า และเพราะดวงหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากทางพระราชวังของแพคเจซึ่งเป็นดวงชะตาของการประสูติของ” “ SU “' ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามของกษัตริย์อาชิน ส่วนอีกดวงหนึ่งนั้นปรากฏขึ้นมาจากอาณาจักรโคคุเรียวอันเป็นดวงชะตาของการประสูติของ 'ทัมดัก' ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามของ กษัตริย์กวางแกโตมหาราช

เมื่อรู้ว่ามีเจ้านายองค์ใหม่ประสูติขึ้นบนโลกใบนี้ Ju -Ahn ซึ่งคอยอยู่บนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ของแมนจูเรียพร้อมกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งคือ ซูจินีเพื่อดูว่าใครในสองคนนี้จะเป็นนายของตน ซูจินีเป็นเด็กกำพร้าที่ Ju- ahn เลี้ยงดูมาและซูจินีก็ถือว่า Ju- Ahn เป็นพ่อของนาง

เรื่องราวของละครเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าทั้งสี่ที่ตามหานาย กษัตริย์กวางแกโตมหาราชผู้ซึ่งเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ ซูจินีผู้หญิงผู้เป็นที่รักของกษัตริย์กวางแกโตมหาราชและซูจินีก็เป็นคนที่กษัตริย์อาชินผู้ไร้ความปราณีหลงรักด้วยเช่นกัน

ที่ นำมาเล่า เพื่อ ให้เห็นว่า พล๊อตของ เรื่อง จากการ มีข่าว ในปี 2005 แตกต่าง จาก ละคร ที่ถ่ายทำจริง และ ยังมีการปรับเปลี่ยน พล๊อตเรื่อง อีก ก่อน มีการออนแอร์ และละคร เรื่องนี้ มีอุปสรรค มากมาย

คราวที่แล้ว คนเล่า ตั้งต้นเล่าวันที่ผิดไปนิดนะคะ อันที่จริงข่าวคราวที่เป็นทางการของ เบ ยองจุน ในการรับแสดงละคร เรื่องใหม่ นี้ เป็น

วันที่ 18 /04/2005

ที่บริษัท เอเจนซี่ BOF ประกาศเป็นทางการ ว่า เบ ยองจุน จะรับ แสดงเป็น DAMDEOK ใน The great King Guanggaeto in the Great King four God Story ตามมาด้วยข่าวจาก BOF ในวันที่ 19/04/05 ว่า จะเริ่มถ่ายทำ ในเดือน ตุลาคม 2005 และมี 24 ตอน และ จะเป็น fantasy period drama and great ambition . ข่าวคราวของละคร เรื่องนี้ จะใช้ชื่อย่อว่า GKFG และต่อมา จะเรียกว่า TAEWANGSASHINGI ชื่อย่อ ว่า TWSSG แล้วก็กลายเป็น THE LEGEND อันเป็นชื่อ ภาษาอังกฤษ ที่จะใช้ ในการ ออนแอร์ ที่ประเทศ ญี่ปุ่น ( เมื่อการถ่ายทำใกล้แล้วเสร็จ มีกระแสข่าว ว่า ชาวญี่ปุ่น จะได้ชม ผลงานละคร เรื่องนี้ของ เบ ยองจุน พร้อม ๆ ชาว เกาหลี เราคนไทย กังวลกันว่า จะเลือกดู ละคร เรื่องนี้ ในเวลา REAL TIME ของการ ออนแอร์ เป็น ภาษาเกาหลี ดี หรือ ภาษา ญี่ปุ่น ดี ( แต่ ต้องเลือก ภาษาเกาหลี อยู่แล้วล่ะ ค่ะ ถึง ฟังไม่รู้เรื่อง ก็ ขอ ฟัง เสียง จริงแท้ แน่นอน ของ เบ ยองจุน ไงคะ)

หลังจากมีข่าวในปี 2005 นั้น ครอบครัว เบ ยองจุน ก็ มัวแต่ไปสนใจ ติดตามข่าวคราวของ ภาพยนตร์ APRIL SNOW ลิขิตพิศวาส หรือ หิมะเดือนเมษา ของผู้กำกับ เฮอร์จินโฮ เมื่อ APS ( APRIL SNOW) ถ่ายทำเสร็จ และออกฉายที่เกาหลี ตามมาด้วย ข่าวคราว ASIA TOUR เพื่อโปรโมท ภาพยนตร์ เรื่องนี้ ครอบครัวBYJ ก็ ตื่นเต้นเป็นปลื้ม กับการตอบรับ ที่ ประเทศ ต่างๆ มีที่ประเทศไทย ที่ไม่ฮือฮา เหมือนที่อื่น ภาพยนตร์ ของเฮอร์จินโอ ผู้กำกับหลงฤดู ดูยากเข้าใจยากอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้ บวกเพิ่มด้วยการพูดน้อยเข้าไปอีก แต่ถ้าตั้งใจจริงๆ ก็ต้อง ขอบอกว่า คนที่รัก เบ ยองจุน ต้องดูภาพยนตร์ เรื่องนี้นะคะ เพราะ พระเอก อินซู ในภาพยนตร์ มาจากเค้าโครงตัวตนของ เบ ยองจุน มี หลายฉาก ที่ ผู้กำกับบอกให้ เบ ยองจุน แสดงอารมณ์ ด้วยตนเอง แล้วก็ ข่าวการถ่ายภาพยนตร์และภาพต่างของ APS ตามมา มากมายจริงๆ ( เพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยชม บทบาท ของชายผู้ถูกคนรักทรยศหักหลัง รีบไปหามาดูนะคะ)

GKFG ต่อค่ะ

23/04/05

มีข่าวจาก sport today ว่า คิม เทฮี IS she a lover of yonsama.? ในบทบาทของ Joojaak KImtaehee’s BYJ lady,the likest for the role of Joojaak in GKFG story. Joojaak,the name mean red Chiness phoenix.

23/04/05

จาก QUILTDelinnia from the BYJ thread in soompi.com

Source: The New Sunday Times - Malaysia

Dated- September 5, 2004By Richard Lloyd Perry –The Times

Established in 37 AD, in what is, now northern Korea and southern Manchuria, the Koguryo period is regarded by Koreans as a golden age.

The ancient Koguryo kingdom was existed more than 1300 years ago and was defeated by its neighbours in 668AD.
ภาพ

It’s founding monarch, Chumong, was an archer and horseman with the apparent gift of walking on water. It’s greatest king, Kwang-gaeto established the present North Korean capital, Pyongyang. It produced distinguished scholars and Buddhist divines and its royal tombs, painted with exquisite murals, have been recognized as world heritage sites. The modern name of Korea ultimately derives from Koguryo.


Despite the fact that northern part of the old kingdom is now China, it was universally acknowledged as a Korean civilization.

1/07/05 จาก My Daily

มีข่าวว่า ซง อิลกุก พระเอกจากละคร จูมงมหาบุรุษกู้บัลลังก์ จะร่วมแสดงด้วยTranslated by Joanne Naeil posted this on the Talk Box of BYJ's official home.Song Ilkook is cast as a character opposite to BYJ in 'Great King Four God Story' [My Daily]7/1/05 06:30ซง อิลกุก จะเป็น ซู ผู้เย็นชาไร้ปราณี (ซึ่งต่อมา คือ กษัตริย์ อาชิน แห่งแพคเจ) และเป็นปรปักษ์กับทัมด๊ก ซึ่งต่อมา คือกษัติรย์ กวางแกโท แห่งโคคุเรียว ซึ่งมี เบ ยองจุน เป็นผู้รับบทบาท และทั้งคู่ยัง ต้องมาเป็นคู่แข่งด้านความรักกับซูจินี อีกด้วย

Kim Jonhak Production plans to begin full-scale shooting from September after completing casting for major characters including female lead Soojini character in this month. [Song Ilkook, known to be cas as an opposite character to BYJ in 'Great King Four Gods Story', Photo=My Daily Photo DB]การถ่ายทำ เลื่อนจาก ตุลาคม เป็น กันยายน

01/07/05 วันเดียวกัน จาก Joy News

Translated by JoanneKwon Ohkyeong posted this on the Talk Box of BYJ's official home.

Song Ilkook, "I did not say I will appear in 'Great King Four Gods Story'" [Joy News]7/1/05 15:35

เอเจนซี่ของซงอิลกุก ได้ปฎิเสธ ข่าวนี้Song Ilkook's agent who is staying in China at present told on a telephone conversation with Joy News on 1, announced like this and made strong statement, "Although we had meeting for about 2 times, it was only something like receiving script," and "we have not decided on it yet." On the other hand, an official at the Cheongam Entertainments, in charge of casting for this drama, also told, "Song Ilkook is just one among numerous actors who are listed in the candidacy," and "Nothing has been decided yet." He explained, "we had met to confirm Song Ilkook's coming schedule," and "however, there is nothing decided yet and we cannot say anything until the total outline of the casting would appear in 2 weeks."

17/05/05
มีข่าว ว่า Who will be Yonsama Lover ในข่าวของ Herald Bussiness

ผู้กำกับ คิมจองฮัก ประกาศว่า ผู้ที่จะแสดงเป็น ซูจินี จะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ และจะเป็นละครโศกเมื่อโชคชะตาทำให้เกิดเป็นความรักสามเศร้าของ กษัตริย์ กวางแกโท แห่งโคคุเรียว กษัตริย์ อาชิน แห่งแพคเจ และ ซูจินี

08/08/05

Kim Jonghak PD, "Why does he produce 'Great King Four Gods Story'?

[Herald SS news]8/8/05 15:26

The KIM Jonghak PD's reason for the production of the 'Great King Four Gods Story' stars from "Why we do not have heroes in our country?"ผู้กำกับ คิมจองฮัก กล่าวถึง บันทึกเหตุการณ์ ทางประวัติศาสตร์ ของสามอาณาจักร ความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์พระองค์นี้ ที่ขยายดินแดนไปที่แมนจูเรีย ทรงเข้าโจมตีปราสาทต่างๆ 16 ป้อมปราการเมื่อพระชนม์พียง 16 พรรษา โดยเฉพาะ ป้อมปราการ ควานมี ใน Pajoo, มณฑลKyeong-gi โดย ได้ เพิ่ม เทพนิยาย เกี่ยวกับเทพเจ้าทั้งสี่ คือ มังกรน้ำเงิน เสือขาว ฟินิกซ์ และ เต่าดำ และเทพเจ้าทั้งสี่ ที่ปรากฏตัวเป็น มนุษย์คิมจองฮัก กล่าวถึง Gando จีน และญี่ปุ่น ด้วยและจะแสดงความแตกต่างการเข้ายึดครองดินแดน ของ กษัตริย์ กวางแกโท มหาราช กับ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ มหาราช

(และคำสัมภาษณ์ ใน DVD preview คิมจองฮัก กล่าวว่า เขาต้องการให้ละครเรื่องนี้ to raise up the spirit of pioneer of challenge to growing young generation อีกด้วย)

02/01/06

[Sports Hankook]1/2/06 07:36

Moon Sori, chosen as 'Yon-sama's woman'และชื่อเรื่อง ที่ใช้ในการให้ข่าว จะเปลี่ยนเป็น 'Tae Wang Sa Shin Gi'มุนโชริ จะแสดงเป็น โซคีฮารายชื่อนักแสดง นอก จาก BYJ ก็มี CHUNG JINYONG , CHOI MINSOO และ มุนโชริ

The Seokiha character,which Moon Sori is to act, is a woman who is fated to become strong due to love that was unattainable. That woman, a descendent of Tiger Women Tribe, who remained as tiger, being different from the bear which became a woman going through period of patience & suffering in Tangun Mythology, was born with fate in which he cannot help but to give in the position of King's woman to Bear Women Tribe. She is a woman with tragic love, who could not win love from Great King Kwang-gae-to (BYJ) and became a figure who confront him in the end.

04/01/06

From BYJ's Quilt - Translated by Joanne

Tigger mom posted this on the Talk Box of BYJ's official home.

พูดถึงการเตรียมตัวของ เบ ยองจุน ที่กำลังฝึก การขี่ม้า การใช้อาวุธบนหลังม้า การต่อสู้ต่างๆ และกล่าวถึงดาราที่จะเข้าร่วม. Chung Jinyoung, Moon Sori, & Choi Minsoo, .

21/01/06
From BYJ's Quilt - Translated by JoanneKwon Ohkyeong posted this on the Talk Box of BYJ's official home.

38.7 billion (won) blockbuster drama 'Tae Wang Sa Shin Gi' begins first shooting in the end of February[Star News]1/20/06 09:13

Mr. Park Changshick, a board director for production at the Kim Jonghak Production told

มีการประมาณการ ค่าถ่ายทำสำหรับละครเรื่องนี้

เป็นค่าก่อสร้าง ที่เกาะ เชจู 13 พันล้านวอน (ประมาณ $13 M )เ

ป็นค่าการถ่ายทำ 25.7 พันล้านวอน ( $ 26 M )

นอกจากนี้สถานที่ถ่ายทำ นอกเกาะเชจู จะเป็นบริเวณที่เคย มีการถ่ายทำ'Seo Dong Yo', 'Sea God', and 'Joomong'. ''
and it is scheduled to be aired in various nations in the world including Korea after coming December.

ในระหว่าง นั้น ครอบครัวยงจุน ก็ กระวนกระวายใจ ที่ เบ ยงจุน ไม่มีข่าวของตนเอง ให้ พวกเราได้ติดตาม ที่แท้ เบ ยองจุน กำลังวุ่นวาย กับธุรกิจ ร้านอาหารแห่ง คือ การเปิด Café โดยเปิด soft openingใน วันที่ 27 มีนาคม 2006 ที่ Shibuya ใน ญี่ปุ่น มีโซจิซบ เป็นหุ้นส่วน ( ขณะที่เล่านี้ Café B ก็ปิดกิจการแล้วเมื่อ 13/02/08) และยงจุน ก็ เตรียมการเปิด ภัตตาคาร Gorilla in the Kitchen ที่ Dosan Park in ShinsaDong ในกรุงโซล อีกแห่งด้วย

15/03/06
มีข่าว ว่า GKFG จะเริ่มต้นถ่ายทำ ในวันที่ 16/03/06 ซึ่งในปี2005 กำหนดเวลาการเริ่มถ่ายทำ เป็น ตุลาคม 2005 แล้วก็เลื่อนเป็น กันยายน 2005

16 มีนาคม2006

จะมีพิธีบวงสรวงละครเรื่องใหม่ของยงจุนที่เกาะเชจู...แต่เป็นพิธีแบบภายในไม่ได้เปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวเหมือนตอน April Snow เมื่อคราว เปิดกล้อง April Snow ทั้งสิ่ออมวลชน ทั้ง ครอบครัวยงจุน มากมายจริง รถ บัส นำเที่ยว จอดเรียงรายเป็น แถว นับไม่ถูก เพราะภาพ ที่เห็น เก็บภาพ มาไม่หมดนั่นเอง


16/03/06
ครอบครัว ชาวญี่ปุ่น 400 คน ไปรอรับ เบ ยองจุน ที่สนามบินเกาะเชจู( คนญี่ปุ่นบินจากญี่ปุ่น ไปรอรับ เบ ยองจุน ที่ บิน ภายในประเทศตัวเอง ไม่แปลกอะไร กลับเป็นเรื่องธรรมดาของครอบครัว ยงจุน)

[Press Release] 'Tae Wang Sa Shin Gi' begins first shooting along with well-wishing ceremony(Gosa)!! BOF3/16/06

จำกันได้ไหม คะว่า ใครเป็นใครกันในภาพ

Much talked about drama which will write history of Korean dramas anew'Tae Wang Sa Shin Gi' begins first shooting along with well-wishing ceremony(Gosa)!!

Beginning with the Gosa on march 16 at the open set in Jeju,with the Gosa on march 16 at the open set in Jeju,it will enter great journey of shooting lasting for 10 months1

The 'Tae Wang Sa Shin Gi' , the best talked about drama which will write history of Korean dramas anew, entered full-scale shooting after holding Gosa ceremony praying for safe shooting and wishing for the success of the production in Jeju on March 16(Thrusday).

At the site of Gosa in this time, all the staff including Director Kim Jonghak & writer Song Jina, and all the major actors including leading actor BYJ, Choi Minsoo, Park Sangwon, Park Sangmyeon, Yoon Taeyoung, Lee Dahee, attended and glorify the occasion while praying and wishing for the success of the drama.

พิธี Gosa ก็เป็นการเซ่นไหว้ ในการเปิดกล้องเหมือน ที่บ้านเรา ของที่เซ่นไหว้ ก็คล้ายๆ กัน

16/03/06
From BYJ's Quilt - Translated by Joanne

Kwon Ohkyeong posted this on the Talk Box of BYJ's official home.

'Tae Wang Sa Shin Gi'. 'Sand Glass' team united again[Star News]3/16/06 15:50 In the 'Tae Wang Sa Shin Gi' depicting biography of Great King Kwang gae-to(Production-Kim Jonghak Production & Cheongam Entertainment), team of the 'Sand Glass', which recorded amazing viewing rate at 64.2 % in 1995, became united again.Following Kim Jonghak PD, who directed the 'Sand Glass' directs in a long time, first, writer Song Gina, having written the script, joined hands with Kim PD again.

Also, Choi Minsoo and Park Sangwon, who played Taesoo and Wooseok, 2 male lead actors in the 'Sand Glass' support. Choi Minsoo takes a character of an elder of Daehwajeonwhoi, a God in the middle continent(Manchuria?) who would help the Great King Kwang-gae to, and Park Sangwon takes a character of Yeon Garyeo, father to Yeon Hogae(Actec by Yoon Taeyoung), who is a rival suiter in love as well as rival to the Great King Kwang-gae to.

Yeon Garyeo is a person who tries to destroy the Great King Kwang-gae-to with the enormous power of China on his back, and it was initially decided to be played by Choi Minsoo. However, then exchanged the character due to judgement that Park Sangwon suit

ในปี 2006 บทบาท ของ ชอยมินซู ที่วางไว้ จะไม่เหมือน กับ แทจังโร จอมขมังเวทย์ แห่ง ฮวาเชิน ในละครที่เราได้ชมกัน

แต่ ที่ ฮือฮา ตามมาก็คือ เบ ยองจุน ดู น้ำหนัก มากเกินปกติ แล้ว BOF ก็ มีเสียงโทรศัพท์ ตลอดเวลา เพราะ เรื่อง น.น.ของ เบ ยองจุน

'Yon-sama gained weight' BYJ is undergoing transformation![Gonews]3/17/06 09:40

BYJ who attended the Gosa and first shooting of the drama 'Tae Wang Sa Shin Gi' on 16 had his hair grow and his face looks better that before. Regarding this, staff at his management agency told, 'Since the film 'Oe Chool' while preparing the 'Tae Wang Sa Shin Gi' , BYJ has gained weight by about 4~5 Kg,' and 'While shooting a new drama, he will build his body again.

BYJ will appear on GKFG in his usual weight
A while ago in a phone call interview, BYJ said about his physical training, 'it takes time and it's hard, but I'm enjoying it. I'm getting weight now, and later I will reduce weight by diet and exercise, to shape up 100%.'

หลังจากนั้น ก็จะมีข่าว เบ ยองจุน ไปดู การตกแต่ง ภัตตาคาร Gorilla ซึ่ง เบ ยองจุน จะรวบผมเป็นหางม้า
แล้ว ก็มีข่าวว่า ในวันที่ 21/04/06 จะทำการเปิด ภัตตาคารGorilla ในวันที่ 19/04/05 มีข่าวว่าเบ ยองจุนไปงานเปิดภัตตาคารไม่ได้

BYJ, seems not to attend the opening of 'Gorilla in the Kitchen' on 21

[Goodday]4/19/06 17:26


…………..BYJ told on a telephone conversation on 19 that 'Not only because I am busy with practice on martial arts and physical training for the drama at present, but I also have another schedule on 21 already, It will be difficult for me to attend.'

………………………….

.Mr. Lim Jongpil, trainer, told, 'Now basic body has been completed. First, he is maintaining his weight at around 80-Kg which is a little bit more than ordinary time. Because he cannot always maintain the top physical condition, he will appear in his regular weight when he shoot scenes showing his muscles after the shooting schedule is set.'

แต่ลองอ่านข่าวความรักของครอบครัว BYJ ในคืนก่อนวันที่ 21/04/06 ดังนี้

Japanese tourists stayed up all night in front of BYJ restaurant which awaits opening

[Sports Korea]4/21/06

Those people told, 'We are happy even though we are up throughout night because we can watch the birth scene of Yon-sama restaurant in actual site,' and said in unison, 'We would like to go back after feeling Yon-sama's warm heart in this restaurant.'

ทั้งที่กำหนดเวลาการเปิดภัตตาคาร คือ 11 AM และมี โซจิซบ มาร่วมงาน
ตามมาด้วยข่าวในเดือน 20/05/06 ว่า เบ ยองจุน เตรียมเปิด ภัตตาคาร ที่ ญี่ปุ่น อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งก็คือ โกชิเร นั่นเอง

Mar 17 2006, 01:44
AMTV station:MBC
Producer: Kim Jong Hak
Writer: Song Ji Na
Music Director: Joe Hisaishi
……………………………………………..

ตั้งใจ ตัดข้อความอื่นออก เพราะต้องการเน้น Music Director ว่าคือ Joe HisaishiAs for the music director,

I guess many of you would have read earlier news that he's responsible for the music in the highly rated animation movie, HOWL. TiffanyFrom The Great King and The Four Gods Website http://taewang.gazio.com/

june 28 2006, 09:30 AM rosebaba

Saturday, July 12, 2008

เล่าขาน ตำนานชนชาติเกาหลี ตอนที่ 3

ขอเพิ่มเติม เกี่ยวกับอาณาจักร โบราณของเกาหลี
มาอ่านพบว่า พระอนุชา ของ กษัตริย์ แทโช ( Daeso ) แห่ง โดงบูยอ (Dongbuyeo) คู่ปรับ ของกษัติรย์ จูมง ชื่อ Galsa ไปตั้ง Later Buyeo ในปี ค.ศ.21 สืบสันตติวงศ์ได้ 10 พระองค์ ก็ถูก ผนวก เป็น แผ่นดินของ โคคุเรียว ใน ปี ค.ศ 494 ( กษัตริย์ Buyeo ชื่อ Jan)

ย้อนกลับไปที่ โคคุริออ (โคคุเรียว )

เมื่อกษัตริย์ องค์ ที่ 3 สิ้นพระชนม์

กษัตริย์องค์ ที่ 4 Minjung (44 CE-48 CE )
กลับเป็นพระโอรส องค์ ที่ ห้า ของ กษัตริย์ Yuri เนื่องจากรัชทายาท โอรส ของ กษัตริย์ องค์ ที่ สาม ยังอยู่ในวัยแรกรุ่นชันษาเกินไป พระเจ้าอา Minjung จึงขึ้นเป็นกษัตริย์ ก่อน กษัตริย์ Minjung ไม่โปรดการทำสงคราม ดังเช่น สาม รัชกาล ก่อน เมื่อพระองค์ ครองราชย์ ทรงพยายามหลีกเลี่ยง การนำทหาร เพื่อการสู้รบ และทรงครองราชย์สมบัติ เพียง 5ปี (44 CE -48 CE )ในปี ที่ 2 ที่ครองราชย์ ได้เกิด อุทกภัย ที่ มณฑลภาคตะวันออก กษัตริย์ Minjing ทรงให้เปิดท้องพระคลัง แบ่งสรร อาหาร ออกมาแจกจ่าย อย่างเสมอหน้ากัน แต่ทรงมีพระชนม์ ไม่ยืนยาว ทรงประชวรและสิ้นพระชนม์ ( พออ่านพระนิสัยของ กษัตริย์ องค์ ที่ห้า Mobon ก็รู้สึกสงสัยในใจตัวเอง ว่า คงโดน ยาพิษหรือเปล่าหนอสงสัยแบบนี้ บาปกรรม บาปกรรม ถ้าไม่จริง)
พระโอรส องค์ โต ของ กษัตริย์ องค์ที่สาม Daemusin พระนามว่า Mobon ขึ้นครองราชย์ เป็น

กษัตริย์ องค์ ที่ 5 (48 CE- 53 CE)
ในปี 49 CE กษัตริย์ Mobon ไป โจมตีราชวงศ์ ฮั่น หลายครั้ง ในภายหลังมีการทำสนธิ สัญญา ระหว่างกัน Mobon ทรงดุร้าย ดื้อดึง และเหมือนว่า ประชาชน จะไม่ค่อยรักกษัตริย์ พระองค์ นี้

แปลก ที่ กษัตริย์ Yuri ทรงใช้ สกุล ของพระองค์ เองว่า Hae เป็น Hae yuri และพระโอรส Daemusin ซึ่งมีพระนามเดิมว่า Muhyul ก็ใช้ Hae Muhul (กษัตริย์ องค์ ที่ 3 ) กษัตริย์ องค์ที่ 4 Minjung ก็ ใช้ Hae Saek-Ju กษัตริย์ องค์ ที่ 5 Mobon ก็ใช้ Hae U ขอแทรก ทำความเข้าใจ กับคำว่า Hae และ Go
Buyeo

Buyeo (c.239-494 CE) ruled in modern-day Manchuria. The rulers continued to use the titles of Dangun[3]. Some records refer to Bukbuyeo (North Buyeo) and Dongbuyeo (East Buyeo). It was absorbed into Goguryeo.
See also: List of legendary monarchs of Korea
1. Haemosu of Buyeo 해모수 (239-195 BCE)
2. Mosuri of Buyeo 모수리 (195-170 BCE)
3. Go Haesa of Buyeo 고해사 (170-121 BCE)
4. Go Uru of Buyeo 고우루 (121-86 BCE)

[edit] Bukbuyeo
See also: List of legendary monarchs of Korea
(c.108 BCE–c.58 BCE)
1. Go Dumak of Bukbuyeo 고두막 (108-60 BCE)
2. Go Museo of Bukbuyeo 고무수 (60-58 BCE)
( ความเห็นค่ะ คนเล่า คืดว่า Go Jumong น่าจะสืบต่อ มาจาก Go Museo องค์ นี้ แต่ ทำไมในละคร และอีกหลายที่สื่อว่า จูมง เป็นสายเลือด แฮมูซู แต่ ก็อ่านเจอว่า แฮมูซู มีวงเล็บ ว่า โอรสสวรรค์ เล่าเอง งง เอง ค่ะ แล้วก็มา งง หนักเข้าไปอีก ที่ องค์ชาย ยูริ และพระโอรส พระนัดดา ใช้ HAE ขึ้นต้นชื่อค่ะ ผู้รู้ ช่วยไขข้อข้องใจหน่อยค่ะ เด็กสายวิทย์ อ่อน ภาษา แต่อวดดี เอาเรื่อง ไม่รู้จริงมาเล่า ไม่ถือว่าเล่า แล้วกัน นะคะ ถิอเสียว่า เอาข้อมูล ที่ ไปเจอมาจากแหล่งต่าง ๆมาสื่อสารกันต่อ คนเล่า สุดปัญญา เอาความรู้ ที่เคย ร่ำเรียนมา คือ วิชา DATA PROCESSING มาใช้ วิชา นี้ ใช้ศาสตร์ ที่ประกอบด้วยสูตรคำนวณ ยาวเหยียด มา ประมวลผลน่ะค่ะ แต่ เรื่องเล่า แบบนี้ต้องใช้ ศาสตร์ ที่เป็นศิลป มาประมวล เมื่อประมวลผลไม่ได้ ก็ต้องทิ้งค้างข้อความ ที่สงสัยน่ะค่ะ เช่น Haemosu และ Go Museo เป็นต้น นะคะ)

[edit] Dongbuyeo

(c.86 BCE–22 CE) The rulers of Dongbuyeo submitted to Bukbuyeo in 86 BC, and thus used the title Wang ("King").
1. Hae Buru of Dongbuyeo 해부루왕 解夫婁王 (86-48 BCE)
2. Geumwa of Dongbuyeo 금와왕 金蛙王 (48-7 BCE)
3. Daeso of Dongbuyeo 대소왕 臺素王 (7 BCE - 22 CE)


มาถึงกษัตริย์ องค์ ที่ 6. Taejo ( 53 CE- 146 CE)
ที่เปลี่ยนกลับมาใช้สกุล Go หรือ Ko เหมือนกษัตริย์ จูมง Go Jumong ( คนเล่าก็งง เพราะลอกเขามานี่นา) Taejo เป็นพระนัดดา ของ กษัตริย์ ยูริ เป็นโอรส ของ Jaesa ขึ้นครองราชย์สมบัติ หลัง เกิดการลอบปลงพระชนม์ กษัตริย์ Mobon ( Mobon คงร้าย มากๆ) กษัตริย์ Taejo อยู่ในราชสมบัติ 94 ปี และเป็น Taejo the great เสียด้วย ( กษัตริย์ Mobon มี พระโอรส IK และเป็นรัชทายาท แต่ไม่ได้ครองราชย์ ) หลัง Mobon สิ้นพระชนม์ สภา เสนาบดี ๆได้เสนอแต่งตั้ง Jaesa ขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่ Jaesa ปฏิเสธราชบัลลังก์ ราชบัลลังก์ จึงเป็นของพระโอรส GUNG ชันษา เพียง 7 พรรษา ภายหลัง Gung ทรงเป็นกษัตริย์ Taejo โดยมี พระราชินีเป็นผู้สำเร็จราชการให้กับกษัตริย์ ที่ทรงพระเยาว์ ( งง ว่า ราชินีของใคร คือ พระมารดา ของ Taejo ซึ่งมา จาก บูยอ และถือว่า เป็น ราชินี เพราะ สภา มีการเสนอแต่งตั้ง Jaesa เป็น กษัตริย์ หรือเปล่า หรือราชินีของกษัตริย์เก่า) ไม่บอกว่า Jaesa เป็นพระโอรส องค์ ที่ 4 ของ กษัตริย์ ยูริ ( คนเล่า ลอง ไล่ลำดับดู ว่า น่าเป็น องค์ ที่ 4 น่ะค่ะ) และ ราชวงศ์ Go หรือ Ko ก็เริ่มเข้าสู่วังวน ของศึกสายเลือด แย่งชิงความเป็นใหญ่ เหมือน ราชวงศ์ กษัตริย์ ประเทศต่างๆ ที่เริ่มมาจาก มีการลอบปลงพระชนม์ Mobon กษัตริย์ องค์ ที่ 5

ใน ปี ที่ 94 ของรัชสมัย Taejo พระอนุชา Suseong

ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ องค์ ที่ 7 ทรงพระนามว่า Chadae ( 146 CE – 165 CE )
Chasae ทรงฆ่า พระโอรส ของกษัตริย์ Taejo ทั้ง 2 พระองค์ และยังฆ่า ทั้งพระเชษฐา กษัตริย์ Taejo และพระเชษฐา ซึ่งคั่นระหว่าง กษัตริย์ Taejo และกษัตริย์ Chadae เอง ในปี 165 CE รวมอีก 2 พระองค์
กษัตริย์ Taejo ทรงสวรรคตด้วยพระชนม์ 119 พรรษา อยู่ในราชสมบัติ 94 ปี (แสดงว่าทรงเป็น กษัตริย์เมื่อพระชนม์ 25 พรรษา ) กลายเป็นว่า ทรงมีพระชนม์ ยืนยาว กว่า กษัตริย์ จางซู เสียอีก โสมเกาหลีคงทำให้ อายุยืนจริงๆ

กษัตริย์ องค์ ที่ 8 Sindae ( 165 CE-179 CE)
บ้างก็ว่า ทรงเป็น โอรส ของ Jaesa คั่นระหว่าง กษัตริย์ Taejo และ กษัตริย์ Chadae บ้างก็ว่า เป็น โอรส ของ Taejo บ้างก็ว่าเป็นโอรสของ Chadae บ้างก็ ว่า Sindae เป็นผู้ปลงพระชนม์ Taejo และ Chadae ทรงขึ้นครองราชย์ เมื่อ พระชนม์ 77 พรรษา สวรรคต เมื่อพระชนม์ 91 พรรษา
ไม่แปลก อะไร กับ ศึกสายเลือด เช่นนี้ มีทุกชาติ ทุกศาสนา ทีเดียว โคคุเรียว แท้ๆ ยังมีศึกสายเลือด หลังสถาปนา อาณาจักร เพียง ไม่ถึง 100 ปี กษัตริย์ ถูกลอบปลงพระชนม์

ที่หาเรื่องมาเล่า ถึงองค์ ที่ 8 เพื่อ ค่อยๆ สื่อว่า ราชวงศ์ โคคุเรียว ก็ไม่รอดพ้น วังวน ศึกสายเลือด ดังนั้น ที่กาลต่อมา ทั้ง โคคุเรียว และ แพคเจ เมืองพี่ เมืองน้อง ต้องมา ราวี รบราฆ่าฟัน แผ่อำนาจเข้าหากัน ก็ เป็นเรื่อง ธรรมดา หากเพื่อนๆ ติดตามละครเรื่อง ซอยองโด ( อาณาจักร แพคเจ ) และ แดจังกึม ( อาณาจักรโซซอน ก็คงได้เห็นเช่นกัน)

และ มีราชินี ของกษัตริย์ องค์ ที่ 9 Gogukcheon (179 CE-197 CE ) ก็ ทรง เป็นราชินี ของกษัตริย์ องค์ ที่ 10 ด้วย

กษัตริย์ องค์ ที่ 10 Sansang (197CE -227 CE )
ซึ่งเป็นพระอนุชาของกษัตริย์ องค์ ที่ 9 กษัตริย์องค์ ที่9 นี้ ทรงมีราชินี ที่มีอำนาจทางการเมือง ชื่อ Lady U และเป็น Queen U กษัตริย์ องค์ ที่ 9 ไม่ทรงมี ทายาท (กษัตริย์ องค์ ที่ 9-10 เป็น พระโอรส ของกษัตริย์ องค์ ที่ 8 ) ที่แปลกกว่านั้น กษัตริย์ องค์ ที่ 10 ทรง มี Second Queen และ Second Queen นี้ มีพระโอรส ได้ เป็นรัชทายาท และสืบราชสมบัติเป็น

กษัตริย์ องค์ ที่ 11 Dongcheon ( 227 CE – 248 CE )
( ที่ Queen U ซึ่งมีอำนาจ ยินยอม ให้ มี Second Queen คงจะเพื่อ การมี รัชทายาท หรือเปล่าหนอ หรือไม่ทรงยินยอม แต่ไม่มีกล่าวถึงเรื่องนี้ )
เว่ย ส่งทหาร มารุกราน โคคุเรียว 1หมื่นนาย ยึดเมืองหลวง ของ ฮวันโด ได้ กษัตริย์ Dongcheon ให้ย้าย เมืองหลวง ไปอยู่ เปียงยาง ชั่วคราว และเรียกคืนดินแดนที่เสียไป คืนมาได้

กษัตริย์ องค์ ที่ 12 Jungcheon ( 248 CE -270 CE )
เป็น พระโอรส กษัตริย์ องค์ ที่ 11 ในราชสำนักวุ่นวาย พระอนุชา 2 องค์ ทรยศ และถูกประหารชีวิต พระราชินี Lady Yeon จาก Yeonna –bu จับ Lady Gwanna ถ่วงน้ำ ในทะเลเหลือง ด้วยความริษยา หึงหวง และมีการสงคราม กับ เว่ย (คงเป็นแคว้น ยันนา และกวานนา ที่ในละครจูมงกล่าวถึง 5 เผ่าของโชบน มังนะคะ 5 เผ่า ของละคร จูมง ประกอบด้วย เครุ บีเรียว ฮวานนา กวานนา และยันนา)

กษัตริย์ องค์ ที่ 13 Seocheon ( 270 CE -292 CE )
พระโอรส องค์ ที่ 2 ของกษัตริย์ องค์ ที่ 12 มีการรุกรานจาก ชาว Sushen ในปี 280 ทรงให้พระอนุชา Dal-ga ออกไปขับไล่ และได้รับชัยชนะ และได้ย้าย ชาว Sushen ไปอยู่ ที่ ทางใต้ของ บูยอ ทรงแต่งตั้งให้ พระอนุชาองค์ นี้ เป็น the Prince of National Peace (Prince An- guk ) และให้คอยควบคุม ศัตรูเหล่านั้น
มีพระอนุชา อีก 2 พระองค์ Go ll-u และ Go So –bal ก่อการจลาจล ต่อต้านพระองค์ ในปี ค.ศ. 286 พระอนุชา ทั้ง สอง ถูกฆ่าตาย

ขอข้ามเลยมา ถึง การเริ่มความขัดแย้งกับ อาณาจักร แพคเจ ในเมื่อ โคคุเรียว แท้ๆ ยังมีศึกสายเลือด แล้วแพคเจ จะไม่เกิด ศึกชิงความเป็นใหญ่ ได้อย่างไร หลังสถาปนา อาณาจักร เพียง 300 ปี
ในปี ค.ศ. 286 ทาง ด้านของแพคเจ ตรงกับกษัตริย์ องค์ ที่ 9 Chaekgye มีมเหสี ชื่อ Bongwa เป็น ธิดาของเจ้าเมือง Daifang ทางโคคุเรียว ก็ คือ Seocheon ทางโคคุเรียว ไปโจมตี Daifang แพคเจ ต้องส่งกองกำลังทหารไปช่วย Daifang
ต่อมา กษัตริย์ องค์ ที่ 14 ของโคคุเรียว Bongsang โอรสของ Secheon ขึ้นครองราชย์เป็น

กษัตริย์องค์ ที่ 14 Bongsang (292 CE -300 CE )
พระโอรส องค์โต ของ กษัตริย์ องค์ ที่ 13 เมื่อขึ้นครองบัลลังก์ ทรงหาเหตุ กับพระเจ้าอา Dal –ga ว่าเป็นกบฏ และทรงประหาร ประชาชน สับสนไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงนี้ นอกจากนี้ยังบีบบังคับ พระอนุชา Go Dol –go ให้ ฆ่า ตัวตาย โอรสของพระอนุชา Go Dol –go ต้องหลบหนี เพื่อรักษาชีวิต ในปี 296 มี Murong Hui มารุกรานอีก และถูกขับไล่ออกไป Bongsang เป็นกษัตริย์ ที่ไม่ ฟังการทักท้วงของเสนาบดี และไม่เห็นแก่ ราษฎร ภายหลัง กษัตริย์ Bongsang และพระโอรส 2 องค์ ก็ถูกบีบบังคับให้ฆ่าตัวตาย และเชิญ พระโอรสของ Go Dol-go ขึ้นครองราชย์ เป็น

กษัตริย์ องค์ ที่ 15 Micheon ( 300 CE -331 CE)
ทรงใช้พระชนม์ หลบหนี ซ่อนตัวจากกษัตริย์ องค์ ที่ 14 จนได้ครองราชย์ ทรงเป็นกษัตริย์ นักรบ มีการทำศึก หลายครั้ง มีการผนวกดินแดนเพิ่ม
Micheon continuously developed the Goguryeo army into a very powerful force. During the disintegration of China's Jin Dynasty, he expanded Goguryeo's borders into the Liaodong Peninsula and Chinese commanderies. His first military campaign was in 302, against the Xuantu Commandery. He annexed the Lelang commandery in 313 and Daifang commandery in 314 after attacked Seoanpyeong in Liaodong.
In his reign, Goguryeo was faced with growing Xianbei influence in the west, particularly Murong Bu incursions into Liaodong. Micheon allied with other Xianbei tribes against the Murongbu, but their attack was unsuccessful. In 319, the Goguryeo general Yeo Noja was taken captive by the Murongbu. Throughout this period, Goguryeo and the Murongbu attacked each other's positions in Liaodong, but neither was able to gain a lasting victory.
Micheon died and was buried in 331 at Micheon-won. Twelve years later in the reign of King Gogugwon, his remains were dug up by the Former Yan invaders, and held for ransom.

กษัตริย์ องค์ ที่ 16 Gogugwon ( 331 CE – 371 CE )
โอรส ของกษัตริย์ Micheon Yan ได้มาโจม ตี และ พา ราชินี พระสนม และเชื้อพระวงศ์ ไปเป็นตัวประกัน ที่ Yan และเป็นอีกครั้งที่ย้ายเมืองหลวงชั่วคราว ไป เปียงยางอีก
He ruled at a time when the kingdom was quite weak, and had an ill-fated reign. He sent tribute to the Xianbei state of Former Yan after they invaded the capital in 342 and held the queen and royal concubines captive, in order to secure the return the corpse of King Micheon.
The capital was temporarily moved to Pyongyang, present-day capital of North Korea. In response to the expansion of the southern Korean kingdom Baekje, Gogugwon led an unsuccessful attack in 369. Baekje's king Geunchogo invaded in 371 and Geunchogo's son Geungusu killed Gogugwon in battle at Pyongyang Castle. He was buried in Gogugwon

ในปี ค.ศ. 369 ตรง กับสมัยกษัตริย์ แพคเจ ที่ 13 Geunchogo เป็นกษัตริย์ ที่เข้มแข็ง ได้ ผนวก ดินแดน ของเผ่า Mahan ( ชนเผ่า Mahan นี้มีความสำคัญ เกี่ยวกับอาณาจักร ชิลลา) รวมทั้ง กายา ก็เป็นเมืองขึ้น ของแพคเจ และยังได้ส่งทหารมาโจมตี โคคุเรียว ใน ปี ค.ศ.371 แพคเจ นำทหาร 3 หมื่นนาย นำโดย รัชทายาท GeunchogoZ (ต่อมา เป็นกษัตริย์ องค์ที่ 14 ของ แพคเจ) เป็นผู้สังหาร กษัตริย์ Gogugwon พระอัยกา (ปู่) ของ ทัมด๊ก ค่ะ ที่ ปราสาท เปียงยาง (และนี่คือ สาเหตุ ที่ในละครตำนาน จอมกษัตริย์เทพสวรรค์ ยอนโฮแก ใช้เป็นเหตุผล อ้างกับ ทัมด๊ก ที่รักษาการกษัตริย์ โคคุเรียว ในขณะนั้น ยกทหารอสาสาสมัคร ของตระกูล ยอน 4 หมื่นนาย ไปโจมตี แพคเจ )( และกษัตริย์ องค์ ที่ 14 ของแพคเจนี้ มีราชินี Lady Ai เป็น ธิดา ของ Jin Godo เสนาบดีใหญ่ ของราชวงศ์ JIN ( Eastern Jin Dynasty – ก็น่าจะหมายถึงราชวงศ์จิ้น ของจีน ซึ่ง มีทั้ง ราชวงศ์จิ้นตะวันออก ที่อพยพ โยกย้ายราชธานี ของราชสำนักจิ้น ตะวันตก ที่ล่มสลายลง ราชวงศ์จิ้น อยู่ในระหว่าง ปี ค.ศ.317-420 ราชวงศ์จิ้นนี้ เกิด ปลายยุค สามก๊กของจีน ในราชวงศ์ ฮั่น สับสน ดีจริงๆ ) นอกจากนี้ แพคเจ สมัยกษัตริย์ ที่ 13-14 ของแพคเจ นี้ ยังเป็น พันธมิตร ที่ดี ของ Wa kingdom of Yamato period Japan ด้วย.

กษัตริย์ องค์ที่ 17 ของโคคุเรียว Sosurim
พระโอรสของกษัตริย์ Gogugwon ( 371CE-384 CE)
ในปี ค.ศ. 372 ศาสนาพุทธ ได้เข้ามาในโคคุเรียว และทรงรับไว้ มีการสร้างวัด ให้พระสงฆ์ ที่เข้ามาในราชอาณาจักรและ
Also in 372, he also established the Confucian institutions of Taehak (태학, 太學) to educate the children of the nobility. In 373, he promulgated a code of laws called (율령, 律令), centrally codifying regional customs and acting as the national constitution.
In 374, 375, and 376, he attacked the Korean kingdom of Baekje to the south, and in 378 was attacked by the Khitan from the north
เผ่าคิตัน เป็นชนเผ่า หนึ่งของมองโกลเลีย
กษัตริย์ โซซูริม ไม่มี พระโอรส

กษัตริย์ องค์ ที่ 18 Gogugyang ( 384 CE-391 CE)
พระอนุชา ของกษัตริย์ โซชูริม พระบิดา ของ ทัมด๊ก
In the second year of his reign, Gogukyang sent 40,000 troops to attack the Chinese state of Yan in the Liaodong Peninsula. The Goguryeo army captured Liaodong and Xuantu, and took 10,000 prisoners. In that winter, Yan counterattacked and recovered both provinces.
In 386, the prince Go Dam-deok, the later King Gwanggaeto the Great, was designated heir to the throne.
Goguryeo attacked the southern Korean kingdom of Baekje in 386, which returned the attacks in 389 and 390. In the spring of 391, Goguryeo signed a treaty of friendship with King Naemul of Silla, another of the Three Kingdoms, and received Naemul's nephew Kim Sil-seong as a hostage.

กษัตริย์ องค์ ที่ 19 Gwanggaeto the Great of Goguryeo ( 391 CE -413 CE )

ทัมดัก ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ในปี ค.ศ. 386 (ด้วยพระชนม์ ตามละคร สื่อ คือ 11 พรรษา แต่ ถ้านับตามอ้างอิงนี้ ก็ 12 พรรษา)
Gwanggaeto the Great , means "Very Greatest King, Broad Expander of Territory, [bringer of] Peace and Security, [buried in] Gukgangsang.", sometimes abbreviated to Hotaewang or Taewang. He selected Yeongnak as his era name, and was called King Yeongnak the Great during his reign.
in the 2nd century CE. Upon King Gwanggaeto's death at thirty-nine years of age in 413, Goguryeo controlled all territory between the Amur and Han Rivers (two thirds of modern Korea, Manchuria, and parts of the Russian Maritime province and Inner Mongolia).
In addition, in 399, Silla submitted to Goguryeo for protection from raids from Baekjae. Gwanggaeto captured the Baekje capital in present-day Seoul and made Baekje its vassal. Many consider this loose unification under Goguryeo to have been the first and only true unification of the Three Kingdoms.

ขอตัด ทอน มาแค่นี้ เพราะมีรายละเอียด ความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์พระองค์ ที่เพื่อนๆ ก็อ่านได้มากมาย และก็ยาวมากเลย
และตามเคยนะคะ ที่ยกภาษาอังกฤษมาทั้งท่อน ก็ ขอให้ท่าน อ่านเองแปลเองนะคะ เดี่ยวคนเล่า เล่าผิด น่ะค่ะ และที่เล่า มาข้างต้น ถ้าคนเล่า เล่าผิดพลาดอย่างไร ก็ไม่ว่า กัน แล้วกัน นะคะ ก็บอกแล้ว ว่า เล่า ขาน..ตำนาน.... เท่านั้น จะว่า เป็นพงศาวดาร คนเล่า ก็ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ

ตำนาน คือ เรื่องราวนมนานที่เล่ากันสืบๆมา
พงศาวดาร คือ เรื่องราวของเหตุการณ์เกี่ยวกับประเทศชาติหรือ พระมหากษัตริย์ ผู้เป็นประมุขของประเทศชาตินั้น
ทั้งนี้ เพราะ ไม่ทราบจริงๆ ว่า ที่คนเล่าอ่านมานั้นใครเขียนน่ะค่ะ ก็เลยถือว่า เป็นตำนาน ไปก็แล้วกันนะคะและที่เล่ามานี้ คนเล่า มีวัตถุประสงค์ ในขอบเขตของ เบื้องหลังการถ่ายทำ ละคร ตำนาน จอมกษัตริย์ เทพสวรรค์

ในที่สุด ก็ มาถึง กษัตริย์ องค์ที่ 19 ของโคคุเรียว แล้ว

เบื้องหลัง ละคร ตำนาน จอมกษัตริย์ เทพสวรรค์
เมื่อ 21/04/2005 ใน J K dramas.com มีการเสนอข่าวว่า

เบ ยองจุน กำลังจะมีผลงานทางละครโทรทัศน์ เรื่องใหม่

เบ ยองจุน นักแสดงเกาหลีเจ้าของผลงานละครโด่งดังจาก เพลงรักในสายลมหนาว กำลังจะรับบทบาทการแสดงใหม่ในละครโทรทัศน์ “ Four legends of the great King “ หรือ “ Taewang sasingi” ซึ่งเป็นละครชีวประวัติบุคคลของกษัตริย์แห่งกวางแกโต เบ ยองจุน จะรับแสดงบท กษัตริย์ กวางแกโตในสมัยหนุ่ม ซึ่งมีชื่อว่า ทัมดัก บุคคลในประวัติศาสตร์เกาหลีซึ่งมีความสัมพันธ์ก่อเป็นรักสามเศร้ากับนางกำนัลชื่อ ซูจินี และกษัตริย์ อาชิน แห่ง แบคเจ
กษัตริย์ กวางแกโต เป็นบุคคลผู้พิชิตสงครามคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่ถูกจารึกอยู่ในรัชสมัยสามอาณาจักรเท่านั้น ( 57 B.C.- A.D.688 ) แต่ตลอดจนเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศก็ว่าได้ ในช่วงที่เขาครองราชย์นั้นอาณาจักรของเขาไปจนถึงแมนจูเรีย ซึ่งปัจจุบันเป็นของสาธารณรัฐประชาชนจีน
“ผมรู้สึกดีใจที่มีโอกาสได้ร่วมทำงานกับผู้กำกับ คิม จองฮัก และผู้เขียนบทอย่างคุณ ซงจีนา ผมตัดสินใจเล่นบทนี้เพราะมีทีมงานเบื้องหลัง เก่งๆ และละครเรื่องนี้เป็นละครมหากาพย์ที่มีพล็อตเรื่อง น่าสนใจอย่างมาก “ เบ ยองจุนกล่าว

ทางด้านผู้กำกับ คิมจองฮัก ได้กล่าวถึงการเลือก เบ ยองจุน มารับบทเป็น ทัมดัก เพราะภาพลักษณ์ของเขามีความสุภาพอ่อนโยน และดูมีเสน่ห์นั้น เหมาะสมกับลักษณะนิสัยของ ทัมดัก ก็ เหมือนกับ โมนาร์ช ผู้ ที่โอบกอดทุกสิ่งรอบข้างของเขาไปด้วยความอบอุ่นและในขณะเดียวกันก็เป็นบุคคลที่ มีเสน่ห์อย่างมาก
เบ ยองจุนจะเริ่มรับงานแสดงบท กษัตริย์ กวางแกโต หลังจากที่เขาเสร็จจากการถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่อง April Snow ใน เดือน มิถุนายน ที่จะถึงนี้
“ บทบาทนี้จะแตกต่างจากบท อื่น ๆ ที่ ผมเคยเล่นมา ในแง่ของบทบาทที่มีชีวิตชีวาและมีเสน่ห์น่าดึงดูด ผมจะเตรียมตัวรับบทบาทนี้หลังจากที่เสร็จจากเรื่อง “ April Snow “ เบ ยองจุน กล่าว

สถานที่ถ่ายทำและนักแสดงของเรื่องนี้ยังคงอยู่ในการคัดเลือก ในการถ่ายทำ จะเริ่มขึ้นในเดือน ตุลาคม ที่จะถึงนี้ และจะออกฉายในปีหน้า อย่างไรก็ตามยังไม่ได้เป็นที่ตกลงกันว่าจะออกฉายที่โทรทัศน์ช่องใด

เบ ยองจุนได้รับการขนานนามให้เป็น “ Yonsama “ จากแฟนชาวญี่ปุ่น เขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วเอเชีย จาก บทบาทในละครเกาหลีเรื่อง Winter Sonata
เรียบเรียงข่าวจาก KBS Global และ Korea time

ความเห็น ค่ะ.

1. สมัยสามอาณาจักร( 57 B.C.- A.D.688 )
ที่ใช้ 57 B.C- A.D 688 เล่าเองก็สงสัยเอง เพราะ 57 B.C ถือ เป็น ปี ที่เริ่มต้น การสถาปนา กษัตริย์ องค์ ที่ 1 ของอาณาจักรชิลลา ซึ่ง เป็น ชนเผ่า เก่าแก่ หลายเผ่ามาก่อนตั้งแต่ อาณาจักร โคโซซอนล่มสลายเพราะ ฮั่น และอาณาจักรชิลลา น่า จะ สืบต่อมาถึง 912 ( และ 935 นับต่อ มีกษัตริย์ อีก 4 พระองค์ ถึง ปี ค.ศ 935 ) แต่ ปี 57 B. C. ก็ ยังไม่เกิด อาณาจักร โคคุเรียว โคคุเรียว นับเริ่มต้น ที่ 37 BC ส่วน อาณาจักรแพคเจ ก็ เริ่มต้นที่ 18 BC. .

ส่วนปีท้าย 688 คงพิมพ์ผิดเสียมากกว่า อาณาจักรแพคเจ ล่มสลาย ใน 660 และอาณาจักรโคคุเรียว ในปี 668
2. ตัว ละคร ซูจินี ที่ บอกว่า เป็นนางกำนัล และเป็นรักสามเศร้า กับ กษัตริย์ อาชิน คงเป็นการ ปรับเปลี่ยน บท ละคร ไป เรื่อยๆ เพราะคุณ ซงจีนา ต้อง ปรับเปลี่ยน แก้ไข บท หลายครั้ง ครั้งแรก คู่แข่ง ของ ทัมดัก คือ กษัตริย์ อาชิน แห่ง แพคเจ มีข่าว ว่า จะให้ ซงอิลกุ๊ก พระเอก จูมง รับบทบาท ซึ่งเรื่องนี้ ซงอิลกุ๊ก เคยบอกว่า ไม่ได้ รับการติดต่อ จาก ผู้ กำกับ คม จอง ฮัก แต่ อย่างใด
3. กำหนด เริ่มต้นการถ่ายทำ การ ออก อากาศ ก็ เลื่อน ออกไปหมดค่ะ

ลองติดตาม อ่านไปเรื่อยๆ นะคะ จะพบว่า ละคร เรื่องนี้ กว่าจะได้ ออกมาสู่สายตา ผู้ชม อย่างยากลำบาก ขนาดไหน ค่ะ

ในวันที่ 22 เม.ย2005 Joon family ก็ post ข่าวนี้ Tae Wang SA Shin Gi The Story Of The Great King And Four Gods วันเดียว กับ BYJtogether โดย แหล่งที่มา เดียวกัน คือ Quilt

Producer : Kim Jong-hak (PD) , Song Ji Na ( Scriptwriter) , The Sandglass, Dae Mang ( A Great Ambition ) ,24 episodes.

ในรายละเอียด ก็บอกว่า เบยองจุน รับบท ทัมดัก หรือคือ กษัตริย์ กวางแกโต มหาราช กษัตริย์ องค์ ที่ 19 ของอาณาจักร โคคุเรียว เป็นช่วงเวลา ที่ ทัมดัก มีอำนาจมากที่สุดในเอเชีย ตะวันออก ( แม้แต่ ราชวงศ์ของจีน ก็ยังพ่ายแพ้ ต่อ โคคุเรียว) เมื่อ พระชนม์ 11 ก็ ได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท เมื่อ พระชนม์16 ก็ ครองราชย์เป็นกษัตริย์ ใน ปี 396 ทัมดักไปโจมตี แพคเจ ( ซึ่งเป็น อาณาจักร อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ของโคคุเรียว) และยึดครองบริเวณไปถึงด้านเหนือ ของแม่น้ำ ฮัน และ ทรงเอาชนะการรุกรานราชวงศ์ Yeon ของจีน ทำให้ Yeon พ่ายแพ้ หลังค.ศ.400 ทรงโจมตี ปราสาท ต่างๆ เป็น ร้อยปราสาท และหมู่บ้านต่างๆ เป็นพันหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม ทรงสวรรคต ในพระชนม์ 39 พรรษา

มีการกล่าวถึง กษัตริย์ จูมง ผู้ก่อตั้ง โคคุเรียว โดยมี เทพเจ้า ทั้งสี่ Cheong-ryong ( blue Dragon )n Baek-ho ( White Tiger ), Joo Jak (Phoenix ) , Hyeon-Mu ( Simbolized as a turtle ) แต่ในประเทศญี่ปุ่น จะรู้จัก เทพเจ้าเหล่านี้ คือ Seiryuu, Byakko, Suzaku and Genbu ต่อมา กษัตริย์จูมงอภิเษกสมรกับซอซอนโนที่มีบทบาทสำคัญ ในการก่อตั้งอาณาจักร โคคุเรียว มี โอรส 2 องค์ คือ ออนโจ และพีริว แต่เมื่อ โอรสของจูมง กับชายาคนแรก มาที่โคคุเรียว เพื่อตามหาพระบิดา และได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ซอซอนโน ก็พาโอรส ทั้ง 2 องค์ ไปทางทิศใต้ ตั้งอาณาจักร แพคเจ ดังนั้น โคคุเรียว และ แพคเจ จึงเป็น เมืองพี่ เมืองน้องกัน

วันเวลา ผ่านไป เทพเจ้าทั้งสี่ได้แยกตัวจากสังคม อยู่ อย่างสันโดษและเฝ้ามองดูความสัมพันธ์ของแพคเจและโคคุเรียวที่ค่อยๆเลวร้าย (และยิ่งแย่ลงไปอีกเมื่อกษัตริย์ของโคคุเรียวถูกปลงพระชนม์ในการต่อสู้ระหว่างแพคเจและโคคุเรียว)

ในคืนวันหนึ่ง Ju –ahn ฮยอนมู(เต่า) หนึ่งในเทพเจ้าทั้งสี่เห็นดาวสองดวงปรากฏบนท้องฟ้า และเพราะดวงหนึ่งปรากฏขึ้นมาจากทางพระราชวังของแพคเจซึ่งเป็นดวงชะตาของการประสูติของ” “ SU “' ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามของกษัตริย์อาชิน ส่วนอีกดวงหนึ่งนั้นปรากฏขึ้นมาจากอาณาจักรโคคุเรียวอันเป็นดวงชะตาของการประสูติของ 'ทัมดัก' ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามของ กษัตริย์กวางแกโตมหาราช

เมื่อรู้ว่ามีเจ้านายองค์ใหม่ประสูติขึ้นบนโลกใบนี้ Ju -Ahn ซึ่งคอยอยู่บนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ของแมนจูเรียพร้อมกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งคือ ซูจินีเพื่อดูว่าใครในสองคนนี้จะเป็นนายของตน ซูจินีเป็นเด็กกำพร้าที่ Ju- ahn เลี้ยงดูมาและซูจินีก็ถือว่า Ju- Ahn เป็นพ่อของนาง

เรื่องราวของละครเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าทั้งสี่ที่ตามหานาย กษัตริย์กวางแกโตมหาราชผู้ซึ่งเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ ซูจินีผู้หญิงผู้เป็นที่รักของกษัตริย์กวางแกโตมหาราชและซูจินีก็เป็นคนที่กษัตริย์อาชินผู้ไร้ความปราณีหลงรักด้วยเช่นกัน

ที่ นำมาเล่า เพื่อ ให้เห็นว่า พล๊อตของ เรื่อง จากการ มีข่าว ในปี 2005 แตกต่าง จาก ละคร ที่ถ่ายทำจริง และ ยังมีการปรับเปลี่ยน พล๊อตเรื่อง อีก ก่อน มีการออนแอร์ และละคร เรื่องนี้ มีอุปสรรค มากมาย