เมื่อ เทพฮวานอุง เสด็จกลับสวรรค์ ดินแดน จูชิน ได้ กระจัดกระจายออกไป ทายาทของเผ่าเสือได้สร้างอารามหลวงชื่อ อาบูลลันซา ที่ เหนือต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และคือเผ่า ฮวาเซิน ที่รอคอยกษัตริย์ แห่งจูชิน เพื่อที่จะแย่งชิงอำนาจแห่งสวรรค์ เนื่องจาก เทพ ฮวานอุง เคยตรัสไว้ว่า เมื่อกษัตริย์พระองค์ใหม่ถือกำเนิดขึ้นมา สัญลักษณ์ ทั้งสี่ จะฟื้นขึ้นมา และเมื่อกษัตริย์พระองค์นั้นหาสัญลักษณ์พบแล้วและหักด้วยตราประทับแท่นบูชา ก็จะทรงได้รับอำนาจจากสวรรค์ เผ่าฮวาเซิน ก็ต้องการหาสัญลักษณ์ทั้งสี่ เพื่ออ้างสิทธิ์ของสวรรค์สำหรับตัวเอง เมื่อได้ครอบครองสัญลักษณ์เหล่านั้น แต่ สำหรับชนเผ่า โคมิล ซึ่งสืบทายาท มาจากเต่าดำ ก็เพื่อต้องการหากษัตริย์แห่งจูชิน และช่วยพระองค์หาสัญลักษณ์ที่เหลือ ส่วนสัญลักษณ์ เต่าดำอันศักดิ์สิทธิ์ เผ่าโคมิล เฝ้าปกป้องสัญลักษณ์ และรอคอย กษัตริย์แห่งจูชินเช่นกัน
โอรสของเทพฮวานอุง เมื่อ เติบโตขึ้น ก็กลายเป็น ทันกุนวันคอม ปฐมกษัตริย์พระองค์แรกของชนชาติเกาหลี ได้ก่อตั้งเมืองหลวง ชื่อ อาซาดัล อันเป็นสมัยที่ยิ่งใหญ่ ของ โคโซซอน มี ทันกุน ถึง 47พระองค์ โดยเริ่ม ใน ปี 2333 ก่อนคริสต์ศักราช อันเป็น ยุค Pre-gojoseon ยุค Gija-gojoseon มีกษัตริย์อีก 41 พระองค์ และ Wiman- gojoseon มีกษัตริย์อีก 3 พระองค์แล้วก็ล่มสลาย เพราะชนชาติฮั่น ต่อด้วย พูยอ ที่ก่อตั้งโดยแฮมูซู มีกษัตริย์ 4 พระองค์แล้วแยกออกเป็น บุกพูยอ มีกษัตริย์ 2 พระองค์
ดงบูยอ มีกษัตริย์ 3 พระองค์ คือกษัตริย์ แฮ บูรุ กษัตริย์กึมวา กษัตริย์แทโช ซึ่ง อยู่ในละครเรื่องของกษัตริย์ จูมง แล้วเกิด อาณาจักรโคคุเรียว มี จูมง เป็นปฐม กษัตริย์ ใน ปี ก่อนคริสตศักราช 37 ถึงก่อนคริสตศักราชที่ 19 กษัตริย์องค์ ที่2 ยูริ (องค์ชาย กับพระชายาแรก เยโซยา ของกษัตริย์จูมง)ใน ปี ก่อนคริสตศักราช19 จนถึงปี ค.ศ. 18
ราชินี ซอซอนโน ราชินี ที่ช่วยกษัตริย์จูมงก่อตั้งโคคุเรียว ได้พาองค์ชาย พีรู ไปตั้งเมืองใหม่ ที่ Michuhol ปัจจุบันคือ Incheon และ องค์ชาย ออนโจ ไปตั้งเมืองใหม่ที่ Wiryseong ซึ่งในปัจจุบัน ใกล้กับ กรุง โซลเมื่อองค์ชายพีรูองค์พี่ สิ้นพระชนม์ องค์ชาย ออนโจ ได้รวมเมืองใหม่ 2 เมือง ตั้งเป็น แพคเจ ใน ปี ก่อน คริสตศักราช 18 – ค.ศ.29 ดินแดน จูชิน ที่ว่ากระจัดกระจาย เป็นอาณาจักร ใหญ่ ๆ คือ โคคุเรียว แพคเจ ชิลลา มัลกัล เป็นต้น
2 พันกว่าปีผ่านไป ตรงกับ ปี ค.ศ. 384 เป็นปีที่ 14 ของรัชสมัย กษัตริย์ โซชูริม กษัตริย์ องค์ที่ 17 แห่งอาณาจักร โคคุเรียว ซึ่งเป็นพระปิตุลา ของ กษัตริย์ กวางแกโต มหาราช ฮยอนโก นั่งมองศิษย์รักที่นอนหลับอยู่ หวนนึกถึง เหตุการณ์ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในขณะที่ตัวเองยังเป็นวัยรุ่น ดวงดาวแห่งกษัตริย์จูชิน ได้ ปรากฏบนฟากฟ้า ณ ราตรีกาลหนึ่ง ในปี ค.ศ. 375 อันเป็นรัชสมัยที่ 5 ของกษัตริย์ โซซูริมได้บังเกิดความวุ่นวายและโศกนาฏกรรมมากมายบนแผ่นดินเกาหลีโบราณ
...ตอนที่ 2 ....
ที่อารามหลวงอาบูลลันซา ของเผ่าฮวาเซิน นักบวชเฒ่าชรา แทจังโร สั่งการให้ทหาร ออกค้นหาสัญลักษณ์ผู้พิทักษ์ ทั้ง 4 ตามจุดต่าง ๆ ที่จะมีแสงสว่างบ่งบอกว่าที่นั้น มีสัญลักษณ์ผู้พิทักษ์อยู่ทั้งโคคุเรียว แพคเจ ชิลลา และมัลกัล เพื่อจะครอบครองสัญลักษณ์ทั้ง 4 เพื่อให้โลกนี้อยู่ในกำมือของ แทจังโร แต่ผู้เดียว ที่หมู่บ้าน โคมิล ฮยอนซูหัวหน้าเผ่าคนที่ 71 ก็สั่งให้ ทหารแยกย้าย กัน โดยให้ ฮยอนโก ไปทางใต้กับตนเนื่องจาก มีแสงสว่าง ปรากฏใน เมือง แพคเจ ถึง 2 แห่ง หมู่บ้าน มัลกัล 1 แห่ง ใน เมืองโคคุเรียว ที่ปราสาท โกกแน ท่านหญิงยอน พระขนิษฐา ของกษัตริย์ เป็นท่านหญิง ของเสนาบดี ยอนการยอ เจ็บท้อง ใกล้คลอด ได้เตรียมตัวคลอด ในอ่างน้ำใบใหญ่ แต่ เทวีพยากรณ์ ได้รับบัญชาจากสวรรค์จึงให้นักพรตหญิงกลุ่มหนึ่ง ขี่ม้าออกไปนอกปราสาท มุ่งตรงไปบ้านนอกเมือง ขององค์ชาย ออ จิจิ พระอนุชาของกษัตริย์ พระชายาขององค์ชาย ออจิจิ หลบหนีออกจาก ห้องในบ้านพัก ที่เตรียมการคลอดไว้เช่นกัน ม้าของกลุ่มนักพรต บ่ายหน้าไปสู่ยอดเขา แล้วก็ไปถึงที่หมาย ในเวลาที่ ดวงดาวของกษัตริย์จูชิน เปล่งประกาย วาบวับเป็นวงแหวนบนท้องฟ้า แล้ว พระชายา ก็ ประสูติโอรส ในบัดดลนั้น ท่ามกลางทุ่งหญ้าของคืนที่หนาวเหน็บ และ ภายใต้ ประกายสุกสว่างโรจน์เรือง ของดวงดาว กษัตริย์ จูชิน และนี่คือ องค์ชายทัมด๊ก ส่วนพระมารดา สิ้นพระชนม์หลังประสูติพระโอรส เพียง3 วัน
ขณะ เดียวกับที่ เกิด แสงสว่าง ที่ หมู่บ้านช่างตีเหล็ก ฮักซู มัลกัล ปราการจินแห่งแพคเจ และปราสาทซามิ ในแพคเจ ประกายวงแหวนที่วาววาบของดวงดาวกษัตริย์จูชินวูบหายไป เหลือค้างไว้ แต่ แสงสว่างปกติ แห่งดวงดาวนี้ ที่ปราสาท โกกแน ท่านหญิงยอน ก็ ให้กำเนิดบุตรชาย สมใจใฝ่ฝัน ของ ท่านเสนาบดี และท่านหญิง ว่าบุตรชายตน เกิด ในวันที่ ปรากฏดวงดาวแห่งกษัตริย์ จูชิน โดยเฉพาะท่านหญิง มั่นใจเต็มที่ ว่า นี่คือการกำเนิด ของกษัตริย์ จูชิน และนี่คือ ยอน โฮแก ที่ปราการจิน แห่งเมืองแพคเจ พวกของฮวาเซิน บุกเข้าไปในปราการ หัวหน้าจิน ได้เอาสัญลักษณ์ มังกรน้ำเงิน ที่ส่องส่ว่าง ประทับลงที่หัวใจของบุตรชาย ซอโร ตัวเองถูกฟันตาย สัญลักษณ์ ได้ให้ความคุ้มครอง ซอโร ในขณะที่เด็กชาย ซอโร สลบไป และ ซารยาง(มีผ้าปิดหน้าข้างหนึ่ง) คนของฮวาเซินไม่สามารถ แย่งสัญลักษณ์ หรือจับตัว ซอโร ไปด้วยได้ และ ซอโร ก็จะเป็นผู้พิทักษ์สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ไม่เหมือนใคร
ที่หมู่บ้านช่างตีเหล็ก สัญลักษณ์ ของเสือขาวส่องประกาย พ่อ ลูกสาวและลูกชาย ถูก พวกของฮวาเซินตามล่า พ่อมอบหมายสัญลักษณ์ให้ลูกชายคนโต บุลโดล หนีไปให้ไกลที่สุด แล้ววันหนึ่ง ก็จะพบเจ้าของที่แท้จริง พ่อสั่งว่าเจ้าของจะมาตามเอง ทหารของโคมิล มาช่วยในการซ่อนตัว จากการตามล่าของพวกฮวาเซิน พ่อซี่งถูกอาวุธลับของฮวาเซินตาย และทหารของโคมิล พบว่าในกล่องเก็บสัญลักษณ์ มีแต่ความว่างเปล่า ที่ปราสาท ซามิ ในเพคเจ สัญลักษณ์ฟินิกซ์ ได้ ฟื้นขึ้นมา คนในปราสาท ถูกฆ่าตายหมด ก่อนแม่ตายได้ถอดสายสร้อยสวมใส่ให้โซคีฮา และมอบหมายให้ดูแลน้องน้อย และพาโซคีฮาและน้องไปซ่อนส่วนแม่ถูกฟันตายต่อหน้าโซคีฮา ปราสาทถูกเผา โซคีฮา สำลักควัน โซคีฮา นำน้องน้อยแบเบาะซ่อนในถังถั่วและปิดฝาไว้ แล้วตัวเองก็สลบไป จี้ที่ห้อยคออยู่ ก็ส่งประกายสว่าง แดงวาบ พวกฮวาเซินจึงหาโซคีฮาพบ และจับตัวเธอ กลับอารามหลวงของ ฮวาเซิน แทจังโร หัวหน้าเผ่าฮวาเซินได้ดูดพลังจากจี้หัวใจนกฟินิกซ์ จน เป็นชายวัยกลางคน แทน ผู้เฒ่าชรา และ ได้ฝังสัญลักษณ์ ฮวาเซิน ไว้ที่ไหล่ขวาของโซคีฮา นับแต่นั้นมา โซคีฮา เป็นสาวกที่ แทจังโรสามารถควบคุมได้
ฮยอนซู และฮยอนโก มาถึงปราสาท ที่ไหม้ไฟเหลือแต่ ซากที่ถูกไฟไหม้ และได้ยินเสียงเด็กร้อง เมื่อเปิดฝาถังถั่วจึงพบเด็กน้อยร้องไห้ มีรอยแดงที่หน้าผาก แล้ว ก็ วูบหายไป ฮยอนซู มองเห็นเป็นสีดำ แต่ฮยอนโก มองเห็นเป็นสีแดง เด็กน้อยถูกพากลับมาหมู่บ้านโคมิล ฮยอนซู หัวหน้าคนที่71 จะกำจัด เด็กน้อยทิ้ง เพราะเกรงว่า เด็กนี้ คือ ฟินิกซ์ดำ ที่จะนำเภทภัย มาสู่มนุษย์ แต่ ฮยอนโก คัดค้านว่าหากเด็กน้อยนี้เป็นเป็นฟินิกซ์ ที่จะช่วยกษัตริย์จริง หากฆ่านางเสียแล้วอะไรจะเกิดขึ้นและขอเป็นคนเลี้ยงดูเด็กน้อย คอยจับตาเฝ้ามอง หากเด็กน้อยกลายเป็นฟินิกซ์ดำ ฮยอนโก จะสังหารด้วยมือตนเอง และเด็กน้อยคนนี้คือ ซูจินี หัวหน้าฮยอนซู ยินยอม เพราะเชื่อว่า อำนาจของเต่าดำคือน้ำ อำนาจของฟินิกซ์คือไฟ มีแต่น้ำ ที่จะควบคุมไฟได้ และ อีก 10 ปีต่อมา ฮยอนโก ได้เป็นหัวหน้าคนที่ 72 แทน ฮยอนซู ที่สิ้นอายุขัย โดยการคัดเลือกจาก สัญลักษณ์เทพ เต่าตำ ฮวันมู คือไม้เท้า รับมอบหมาย 2 หน้าที่ คือ ติดตามหากษัตริย์จูชินที่แท้จริงคอยช่วยเหลือพระองค์ และเป็นผู้กำจัดซูจินี หากซูจินี คือฟินิกซ์ดำ
ฮยอนโก เดินทางออกจากหมู่บ้านพร้อม ซูจินี มุ่งหน้าสู่ปราสาทโกกแน (ใครๆ ในโคคุเรียวพากันเชื่อว่า ยอน โฮแก ต่อไปคือกษัตริย์ จูชิน) ยึดอาชีพหมอดูในตลาด โดยมีซูจินี หลอกล่อหาลูกค้ามาให้ และวันหนึ่ง ซูจินี ได้พบโซคีฮา ระหว่างที่ ซา รยางพาโซคีฮา ไปสู่อารามหลวง เพื่อเป็นไส้ศึก ซูจินี เป็นฝ่ายมองเห็นโซคีฮาก่อน สัญชาตญาณ กระตุ้นให้เธอสนใจ โซคีฮา ด้วยความฉับไวแห่งปัญญา เธอ วิ่งไปทางลัดไปดักรอ เพื่อ จะเดินตัดหน้าโซคีฮา แบบ ขอมองให้ ได้ใกล้ ชิด แล้วต่างฝ่ายต่างเหลียวมองกันโดยไม่รู้สาเหตุ มันคงคล้าย ๆกับว่า คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยรู้จักกันมา โซคีฮา เธอสูญเสียความจำ ตอนที่ แม่ฝากน้องสาวให้เธอดูแลปกป้อง เธอ ก็หลายขวบอย่างน้อยก็ 5 ขวบแล้ว ทั้งคู่สบตากันด้วยสัญชาติญาณลึกลับ ตำหนักพยากรณ์ รับโซคีฮา ไว้ เป็นนักพรตฝึกหัด
ที่ปราสาทโกกแน กษัตริย์ โซซูริม มีพระ บัญชาให้มีการเรียกประชุม เสนาบดี เพื่อสั่งเสียพระราชกิจสำคัญ ก่อนสู่กาล สวรรคต
ส่วนขุนพล โกอูซุง ก็ไปรับพระอนุชา และองค์ชายทัมด๊ก มาเข้าเฝ้า เสนาบดียอน การยอ ก็ไปพบเทวีพยากรณ์ อ้างว่า ยอนโฮแก เป็นสายเลือดของราชวงศ์ จากมารดา ที่เป็นขนิษฐา กษัตริย์ เป็น พระธิดา กษัตริย์พระองค์ก่อน เทวีพยากรณ์ รู้ดีว่า ความยุ่งยาก กำลังจะมาเยือน ปราสาทโกกแน ท่านหญิงยอน ได้มาเข้าเฝ้า ที่พระแท่นบรรทม พยายามโน้มน้าว กราบทูลกษัตริย์ ว่า ยอนโฮแก ถือเป็นพระนัดดา เกิด ภายใต้ ดวงดาวแห่งกษัตริย์จูชิน และสืบสายราชวงศ์ ควรได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท กษัตริย์ โซซูริม หลับพระเนตร เฉย
ที่ท้องพระโรง องค์ชาย ออจิจิ และองค์ชายทัมด๊ก เข้าเฝ้ากษัตริย์โซซูริม กษัตริย์ทรงประกาศยกราชบัลลังก์ ให้พระอนุชา ท่านหญิงยอนเข้ามาอาละวาด กล่าวหา องค์ชายจิจิ ว่า เลือดไม่บริสุทธิ์ หลังจากแอบฟังการเรียกประชุมในครั้งนี้และถูกพาตัวออกไป กษัตริย์ โซซูริมทรงเรียกหาองค์ชายทัมด๊ก ให้ขึ้นมาบนที่ประทับในท้องพระโรง ตรัสสั่งเสียให้องค์ชายทัมด๊ก ต่อไปต้องเป็นกษัตริย์จูชิน และรวบรวมดินแดนแห่งจูชินเข้าด้วยกัน และให้ไปค้นหาสัญลักษณ์ ผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ซึ่งนั่น คือสิ่งที่จะปกป้องกษัตริย์จูชิน และนำพาความสำเร็จทั้งหลายมาสู่บ้านเมือง แล้วก็สิ้นพระชนม์ บนพระราชบัลลังก์นั่นเอง หลังจากองค์ชายทัมด๊ก รับสนองพระบัญชา องค์ชายทัมด๊ก ได้พบโซคีฮา ครั้งแรก ที่ท้องพระโรงในวันรับมงกุฎกษัตริย์ของพระบิดา พระนามกษัตริย์ หยาง
ท่านหญิงยอน พยามกระตุ้นเร้าเสนาบดียอน ให้ จัดการให้ ยอนโฮแก ได้เป็นกษัตริย์ แต่เสนาบดียอน ไม่อยากเห็นการนองเลือดที่จะเกิดขึ้น ท่านหญิงยอนกล่าวว่า จะจัดการเรื่องนี้เอง เธออ้างว่าเพื่อ สนองโองการแห่งสวรรค์ กษัตริย์ หยาง สอนให้องค์ชาย ทัมด๊ก อยู่รอดในพระราชวังให้ได้โดยไม่ให้ทำพระองค์เด่น เฉลียวฉลาด มีเมตตา แคล่วคล่อง กล้าหาญให้ใครเห็น ให้ทำพระองค์ให้เหมือนข่าวที่ออกมาว่า ทรงไม่ฉลาดเป็นคนโง่ อ่อนแอ ขี้โรค ไม่เรียนหนังสือ ไม่ฝึกอาวุธ และไม่ให้ออกไปนอกวังหลวง (เพื่อความปลอดภัยขององค์ชายเอง) ไม่ให้คบเพื่อน เพื่อไม่ให้ องค์ชายเป็นที่สนใจของใคร ๆ จนกว่า ทัมด๊กจะได้เป็นกษัตริย์ ถึงจะเปิดเผยพระองค์ที่แท้จริงได้ องค์ชายทัมด๊ก ไม่ปรารถนา ความเป็นกษัตริย์ เพราะคิดว่า การเป็นกษัตริย์ คือพระบิดา สวรรคตแล้วนั่นเอง
ยอนโฮแก ปรากฏตัวให้ ผู้คนในโคคุเรียว รู้จัก ว่า องอาจ กล้าหาญ ชำนาญศึก รอบรู้ในการเรียน ใช้อาวุธสู้รบ ทั้งทวน กระบี่และธนู และเพียบพร้อมทุกด้าน องค์ชายทัมด๊ก และยอนโฮแก มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ยอนโฮแก ยังสอนองค์ชาย ในเรื่องการใช้อาวุธทวน
แทจังโร มองเห็นความเป็นคาจิน ในตัวโซคีฮา และเชื่อว่า ยอนโฮแก คือกษัตริย์จูชิน สั่งให้โซคีฮาทำให้ยอนโฮแก สนใจ โซคีฮา และให้ควบคุม ยอนโฮแก เหมือน ในอดีตที่ คาจิน เคยสยบผู้ชายทั้งหลาย (ขอวงเล็บเอง ว่ายกเว้นเทพฮวานอุง)
โซคีฮา ได้พบองค์ชายทัมด๊กครั้งที่ 2 ในหอสมุดหลวง เพราะ แทจังโร สั่งให้เธอไปค้นหา บันทึกเกี่ยวกับสัญลักษณ์ผู้พิทักษ์ ยังหาไม่พบ องค์ชายทัมด๊ก ก็เข้ามา เป็นเวลากลางคืน โซคีฮา ไปแอบหลบหลังชั้นหนังสือ องค์ชายรู้แต่แรกว่า มีคนแอบอยู่ เพราะพอเข้ามาในห้อง องค์ชาย ก็รับสัมผัสได้ว่ามีคนอยู่ในห้องหนังสือด้วย องค์ชายหยิบหนังสือมาอ่าน ครู่หนึ่ง ก็บอกว่า จะอ่านหนังสืออีกจนเช้า เจ้าจะไม่เมื่อยเกินไปหรือ เมื่อข้าเข้ามาข้าสัมผัสกลิ่นดับควันไฟแต่ตอนนี้ข้าได้กลิ่นหอม เป็นกลิ่นเครื่องหอมจากอารามหลวง เจ้ามาจากอารามหรือ ถ้าเจ้าจะเข้ามาแอบอ่านหนังสือเหมือนข้า ก็อย่าซ่อนตัวเลย มาอ่านด้วยกันเถอะนะ แต่โซคีฮาก็เฉย องค์ชายหยิบหนังสือมานั่งเปิดอ่านไม่สนใจเพื่อนร่วมห้อง โซคีฮาชักเมื่อยเต็มที ก็ลุกขึ้น กะว่าจะออกไปจากห้องสมุด องค์ชาย ก็ลุกขึ้นกะทันหัน ฝึกวิชา เคลื่อนไหวตัวตามหลักวิทยายุทธ์ แต่ติดขัด แล้วองค์ชายก็บ่นข้องใจกับองค์เองโซ คีฮา หันหน้าเข้าหาชั้นหนังสือ แล้วพูดว่า เด็กฝึกหัดจากอารามหลวงไม่ได้ รับอนุญาตให้พูดกับใคร ขอพูดกับเจ้าชั้นหนังสือนี่แล้วกัน แล้วโซคีฮา ก็บอกวิธี ฝึกที่ถูกต้องให้ แล้วก็ออกจากห้องสมุดหลวงไป
Copyright @Amornbyj & SUE 2008