Sunday, April 27, 2008

เรื่องย่อ ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ (ตอนที่ 6)


ตอนที่ 6
ในการสอบสวน ของเทวีพยากกรณ์ โซคีฮา ให้การว่า ที่แอบปีนกำแพงอารามออกไปข้างนอกทุกคืน เพื่อออกไปพบกับคนที่เลี้ยงดู แต่เทวีพยากรณ์ ไม่เชื่อ ให้โซคีฮายอกความจริงมา โดยบอกว่า เจ้าเป็นนักพรตหญิงที่ได้รับการฝึกฝน เพื่อรับฟัง(โองการสวรรค์) และติดต่อกับสวรรค์ ซึ่งเจ้าควรฝากชีวิตไว้อย่างนี้ เทวีพยากรณ์สงสัยว่า โซคีฮาเป็นสายลับจากอาณาจักรอื่น หรือไม่ ก็เป็นคู่นอนขององค์ชาย หากโซคีฮา สารภาพจะไว้ชีวิต โซคีฮาไม่ตอบ เทวีพยากรณ์ ลุกขึ้น จากเก้าอี้ที่นั่ง โซคีฮา เรียก เทวีพยากรณ์ และบอกว่า ต่อไป องค์ชายจะขึ้นเป็นกษัตริย์ จะทรง ออกไปข้างนอกวัง เพื่อพบกับคนเช่นข้าหรือมันเป็นไปไม่ได้ เทวีพยากรณ์ออกไปจากห้อง ประตูห้องอีกห้องก็เปิดออกมองเห็น เก้าอี้ โซ่ตรวน และแส้ โชจูโด ถือสารของเสนาบดียอน มาถึง แจ้งว่า เสนาบดียอน เฉพาะเจาะจง ขอตัวโซคีฮา เพราะต้องการคำทำนาย เกี่ยวกับอาณาจักร โคคุเรียว
องค์ชายไปถึงบ้านเสนาบดียอน เสด็จผ่านฮยอนยองๆ จึงรีบไปบอกฮยอนโก ฮยอนโก พยายามรวบรวมสมาธิ ที่จะปล่อย ม่านควันอำพรางเพื่อจะแอบเข้าไปในบ้านเสนาบดียอน แต่ ไม่เป็นผล สมาธิไม่แก่กล้าพอ
เสนาบดียอน ออกมาต้อนรับและแปลกใจที่พบองค์ชาย เพราะองค์ชาย กำลังถูกกักบริเวณ องค์ชายทรงบอกว่า ทรงหนีออกมา และทรงขอให้ เสนาบดีปล่อยนักโทษ ทีมโปโลสีดำ ชาวเผ่าจุนโน เสนาบดียอน ทูลว่า ยังไม่ได้ตัดสินโทษ ว่าควรจะลงโทษ ทีมโปโลสีดำว่าที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือจะลงโทษ ในฐานะหลอกลวง ดี


องค์ชาย : ท่านก็รู้ว่า ท่านกำลังทำให้เรื่องใหญ่เกินจริง ท่านต้องการใช้โอกาสนี้แก้แค้นข้า งั้นก็ทำสิ แก้แค้นข้า แล้วปล่อยพวกนั้นไป ท่านต้องการทำอะไร ท่านต้องการให้ข้าสละตำแหน่งรัชทายาทหรือ ท่านต้องการพูดว่าทัมด๊ก ไม่มีสิทธิในการเป็นรัชทายาท
เสนาบดียอน ย้อนทูลองค์ชายว่า หากหม่อมฉันต้องการเช่นนั้นจะทรงยอมหรือไม่พะย่ะค่ะ
องค์ชาย ตรัสว่า ถ้าข้ายอมรับ ท่านจะปล่อยฝ่ายสีดำออกไปคืนนี้หรือไม่
เสนาบดียอน ยังโยกโย้ เพราะสงสัยที่องค์ชายจะสละตำแหน่งรัชทายาท ซึ่งจะต้องเป็นกษัตริย์ องค์ต่อไป
แทจังโร เดินผ่านมาและแอบยืนฟัง องค์ชาย ทรงตรัสยืดยาวว่า : ตั้งแต่ก้าวแรกที่ข้าเข้ามาในวัง ข้าไม่ต้องการเป็นรัชทายาท ข้ารู้ว่าตำแหน่งนี้ เป็นของโฮแก ข้ายังรู้อีกว่าไม่ช้าก็เร็วข้าต้องสละตำแหน่งนี้ สวรรค์เป็นพยาน เมื่อโฮแกเกิด โลกทั้งโลกเห็น ดวงดาว จูชิน ข้าเองก็เป็นผู้สืบทอดจากจูชิน และเป็นพลเมืองของอาณาจักรนี้ ข้าเองก็รอคอยการกลับมาของกษัตริย์จูชิน แต่ท่านจะรออีกนิดไม่ได้หรือ ถ้าไม่เป็นเพราะความตั้งใจของท่านที่จะปลงพระชนม์เสด็จพ่อของข้าเพื่อยึดราชบัลลังก์ ท่านจะไม่รอต่อไปอีกสักนิดหรือ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมข้าจะมอบตำแหน่งให้ ข้าจะดีใจที่มอบบัลลังก์ให้กับบุตรชายของท่าน
แทจังโรที่อยู่ด้านนอก คิดหนักกับคำตรัสขององค์ชาย
เสนาบดียอนเดินมาส่งเสด็จองค์ชาย เป็นเวลาที่โซคีฮามาถึงบ้านตระกูลยอนพอดี สวนกันโดยต่างไม่เห็นกัน เสนาบดียอนทูลว่า วันนี้ยังคงปล่อยตัวไม่ได้ การจะปล่อยตัวนักโทษต้องมีการตัดสิน แต่หม่อมฉันจะทำให้ดีที่สุด องค์ชายทรงเตือนว่า พยายามรีบปล่อยนักโทษ ในจำนวนนั้น มีคนที่ไม่ค่อยจะอดทน นางอาจจะเอะอะโวยวาย ข้ามอบความไว้วางใจให้ท่าน เสนาบดียอนทูลว่า ขอขอบพระทัย ในน้ำพระทัยพะย่ะค่ะ
แทจังโร ถามโซคีฮาว่า ข้าเคยคิดว่ารัชทายาทองค์นี้ เป็นคนอ่อนแอทั้งร่างการและจิตใจ ทรงเป็นเช่นนั้นจริงๆหรือ จะทรงสละตำแหน่งรัชทายาท ทรงตรัสถึงความไม่เหมาะสมที่จะทรงเป็นกษัตริย์ ซึ่งนั่นมิใช่ผลดีเสียเลย เหตุผลแรก เวลา ที่เสนาบดียอนยอมรอ นั้นมันเป็นปัญหาของพวกเรา เรารอจนกว่ากษัตริย์ องค์ปัจจุบันสวรรคตไม่ได้ ประการที่สอง มันไม่มีประโยชน์อะไรกับเรา ถ้าหากยอนโฮแกเป็นกษัตริย์ง่ายๆ
ข้าต้องการเป็นคนที่มีความสำคัญ ที่มีคุณค่า สำหรับทั้งพ่อและลูก ข้ามีแผนการที่จะอยู่กับตระกูล ยอนอย่างมั่นคงปลอดภัย เจ้าต้องแสดงบทบาทที่นี่ โซคีฮาจึงรู้ว่า ที่จริงแล้ว แทจังโรต่างหาก ที่ต้องการให้เธอมาที่นี่ แทจังโรย้ำว่า เจ้ารอคอยเวลามานานแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าต้องรุก ครองหัวใจเจ้าหนุ่มยอนโฮแกให้ได้ ในระหว่างนั้นข้าจะวางแผนสร้างปัญหาเล็ก ๆในอาณาจักรนี้ คีฮา ในความเห็นของเจ้า เจ้าไม่คิดหรือว่า โคคุเรียวตอนนี้มันสงบมากเกินไป หรือ ที่เรือนจำ ซูจินีสนุกสนาน กับการโยนเบี้ยเล่นพนัน กับทีมโปโลสีดำ


องค์ชายเมื่อกลับไปที่สุสานหลวง ทรงพบพระบิดา ประทับยืนรออยู่ ทรงคุกพระชานุ ลง แล้ว กราบทูล (กราบบังคมทูล)เล่าเรื่องที่เสด็จไปบ้านตระกูลยอน กษัตริย์ ทรงตกพระทัย ผิดหวัง และทรงพิโรธองค์ชาย เมื่อองค์ชาย กราบทูลต่อว่า คิดจะสละตำแหน่งให้ ยอนโฮแก สวรรค์ได้เลือกกษัตริย์แล้ว จะมีประโยชน์อะไรที่จะฝ่าฝืนโองการสวรรค์ โปรดทรงอนุญาต กษัตริย์ทรงถามว่า องค์ชายจะทำอะไรหลังจากสละตำแหน่ง องค์ชายกราบทูลถามกลับว่า เสด็จพ่อทรงมีความสุขหรือ ทุกย่างก้าวที่ทรงอยู่ในวังท่ามกลางอสรพิษ ที่คอยจ้องมองความเคลื่อนไหว ทรงเว้นระยะ แล้ว กราบทูลต่อว่า วันหนึ่ง หม่อมฉันต้องการอยู่กับคนที่หม่อมฉันรัก
กษัตริย์ทรงคลายพระพักตร์ที่บึ้งตึงลง แต่พระสุรเสียงยังทรงกริ้วอยู่ ทรงถามว่า นักพรตหญิงที่มาจากอารามหลวงหรือ นางบอกให้เจ้าทิ้งพ่อ และสวรรค์ เพื่อไปอยู่กับนางหรือ ทรงทรุดพระองค์ ลงในระดับเดียวกับองค์ชาย ตัดพ้อพระโอรสว่า เจ้าช่างไม่รู้อะไรเลย เจ้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร เจ้าไม่รู้ว่านานแค่ไหน เจ้าไม่รู้ว่าคนจำนวนมากเท่าใดที่รอเจ้าอยู่ เจ้าช่างไม่รู้อะไรเลย .... องค์ชาย เงยพระพักตร์ สบสายพระเนตรกับพระบิดา
ยอนโฮแก เข้าใจว่าเสนาบดีเรียกหา เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป ก็ไม่พบผู้ใด เมื่อเดินลึกเข้าไป จึงได้เห็นโซคีฮา ต่างคำนับทักทายกันส่วนอีกห้องหนึ่ง แทจังโร นั่งอยู่กับเสนาบดียอน และเปิดฝากล่องสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธ์ หัวใจฟืนิกซ์ ส่วนโซคีฮา ก็ ใช้สองนิ้วของตัวเอง จุดไฟ ที่เทียนแท่งต่างๆ ที่วางเรียงรายในห้อง ไฟ ลุกขึ้น ที่เทียนแต่ละเล่ม ยอนโฮแก แอบยืนมองอยู่ แล้วโซคีฮา ก็เริ่มตั้งท่าจะร่ายรำในการจุดเทียน แล้วโซคีฮา ก็นึกถึง องค์ชายในขณะเยาว์ชันษา องค์ชายตรัสถามตนเองว่า ถ้าข้าเรียนรู้การต่อสู้ ข้าจะเป็นกษัตริย์ ที่ดีไหมและตนเองตอบว่า ข้าเพียงต้องการให้พระองค์ ทรงแข็งแรงและแคล่วคล่องกว่านี้ เพื่อว่าเมื่อทรงตกอยู่ในอันตราย จะทรงหนีได้และไม่ได้รับอันตราย


ส่วนองค์ชาย ในสุสานหลวง ทรงกำลังระลึก ถึงเวลาในขณะยังเยาว์ชันษาเช่นกัน ทรงเรียกคีฮา เสียงโซคีฮาตอบว่า เพคะ
องค์ชาย : อยู่ข้างๆข้าเสมอนะ อยู่ในที่ที่ข้าจะเห็นเจ้าได้เสมอ
เป็นจังหวะที่โซคีฮาหมุนตัวรวดเร็ว จนเสื่อคลุมสีดำ กระเด็นหลุดจากตัว เหลือแต่ชุดสีขาว แล้ว โซคีฮา ก็ร่ายรำ จุดเทียนเล่มโน้นเล่มนี้ จนสว่างไสวไปทั้งห้อง
ส่วนยอนโฮแก ก็กำลังภาพอดีต ที่เห็นโซคีฮา ครั้งแรกที่อารามหลวง และภาพที่ตัวเองฉุดโซคีฮา หลบพ้น อันตราย ทีมีม้า วิ่งเข้าหาโซคีฮาอย่างรวดเร็ว และยอนโฮแก ช่วยไว้ เด็กทั้งคู่สบตากัน
ที่ห้องของเสนาบดียอนและแทจังโร หัวใจฟินิกซ์ ส่องประกาย สีแดงขึ้นมา ทั้งคู่ตกใจเช่นกัน ในเวลาที่หัวใจฟินิกซ์ ส่องประกายสีแดงนั้น ซูจินี ที่นอนหลับอุตุอยู่บนพื้นที่คุกของบ้านตระกูลยอน ก็สะดุ้ง เห็นภาพแชโอกลายเป็นฟินิกซ์ดำ ไฟลุกท่วมไปทั่วตัวเอง ซูจินีดิ้นรนร้องโวยวาย โซดูรู เจ้าหมู่ป่าเข้ามาจับตัวซูจินีเขย่าให้ตื่น ผู้คุมตวาดให้ทุกคนนอนลงให้หมด เจ้าหมูป่าปลอบใจว่า เจ้าคงฝันร้าย กลับไปนอน ซูจินี ล้มตัวลงนอนต่อ
ฮยอนยอง ซักถามฮยอนโก เพราะไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่สัญลักษณ์ชี้นำกษัตริย์จูชินได้ ฮยอนโกย้ำว่า ตำนานเมื่อ 2 พันปีเป็นเช่นนั้น มังกรน้ำเงิน เสือขาว เต่าดำ สัญลักษณ์ ศักดิ์สิทธิ์ ถูกทิ้งไว้บนโลกมนุษย์ สัญลักษณ์จะเลือกผู้พิทักษ์ และจดจำกษัตริย์จูชินได้ เรื่องเป็นเช่นนี้
ฮยอนยองถามต่อว่า ดังนั้นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์และผู้พิทักษ์ ทุกอย่างจะปลดปล่อยหมดหากพวกนั้นพบกษัตริย์จูชิน ขอถามอีกข้อ ในกรณีเต่าดำของเรา ถ้าสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์พบกับกษัตริย์จูชิน “ โทสะที่เยือกเย็นจะปลุกทุกสิ่ง “ นั่นคือเรื่องที่เล่ากันมา แต่แล้วอย่างอื่นอีกล่ะ ท่านหัวหน้า แล้วสัญลักษณ์อย่างอื่นล่ะ ปรากฏว่า ฮยอนยองเหลียวหาก็ไม่พบฮยอนโกเสียแล้ว
ฮยอนโก นั่งอยู่ในตลาด ที่ตัวเองใช้เป็นที่ดูหมอดูให้ลูกค้า รำพึงว่า ถ้าซูจินีทำผิดพวกนั้นจะฆ่านาง ฮยอนยองตามมา บอกว่า ท่านเป็นหมอดู ก็ดูดวงให้นางสิ
โซคีฮากำลังรินชาจากกาชา ลงถ้วยยกขึ้นจะดื่ม ยอนโฮแก ก็เข้ามา ถามว่าเจ้าจำข้าได้ไหม ข้าอยากจะพบเจ้า เพื่อว่าเจ้าจะจำข้าได้ แต่เจ้าอยู่ในอารามหลวงที่ข้าไม่สามารถเข้าไปพบเจ้าได้ โซคีฮาตอบว่า ข้าเห็นท่านบ่อยๆ ที่อารามและที่สนามแข่งขัน ยอนโฮแกยิ้ม สำหรับข้า เป็น นานๆครั้ง แต่สำหรับเจ้ากลับนับครั้งไม่ถ้วน โซคีฮา บอกว่า จะต้องพำนักที่นี่ระยะหนึ่งเพื่อทำนายและสวดมนตร์ภาวนาให้ครอบครัวของท่าน ข้าเป็นนักพรตฝึกหัด ต้องขอความกรุณาจากท่าน
ที่ประตูเมือง ฮีกแก ผู้นำเผ่าจุนโน ขี่ม้านำทหารของแคว้นมาที่ประตูเมืองแต่เข้าประตูมาไม่ได้ ทหารบนกำแพงเมืองตะโกนบอกว่า มีคำสั่งไม่ให้คนจากแคว้นจุนโนเข้ามา ฮีกแกถามว่าคำสั่งของใคร บอกข้าสิว่าคำสั่งของใคร ทหารบนกำแพงตอบว่า คำสั่งเดียวที่พวกเรายอมรับคือคำสั่งจากสวรรค์ และกษัตริย์ของเรา
ฮีกแก ถามว่า กษัตริย์ไหน เจ้าหมายถึงหุ่นเชิดที่เรียกว่ากษัตริย์อย่างนั้นหรือ เจ้าไม่รู้หรือว่า คนจากแคว้นจุนโนไม่เคยกลัวอะไร เพราะเหตุนั้นพวกเจ้าจึงจับลูกชายของข้าและขังไว้ และกีดกันข้าออกจากสภา แล้วคว้าดาบมาจากทหารจุนโนที่อยู่ใกล้มาขู่ สั่งให้เปิดประตู ทหารบนกำแพงเมือง ยกธนูขึ้นพาดสาย เล็งมาที่ฮีกแก ๆชะงัก เจ้าสารเลว จนกว่าพวกเราจะได้เข้าเฝ้ากษัตริย์ คนจากแคว้นจุนโนจะไม่ยอมถอยจากประตูนี้แม้แต่ก้าวเดียว โยนดาบคืนให้ทหาร แล้วฮีกแกก็ลงจากหลังม้า
ในท้องพระโรง โชจูโด คนสนิทของเสนาบดียอน เสนอให้กษัตริย์เปลี่ยนรัชทายาท เพราะรัชทายาทคือคนที่โชคชะตากำหนดให้เป็นกษัตริย์ มีหน้าที่ให้ความสว่างไสวเฉกเช่นดวงอาทิตย์ ให้กับประชาชนทุกคนไม่เลือกชนชั้น แต่ รัชทายาทหลอกลวงประชาชนละกษัตริย์ โดย ซ่อนพระพักตร์และลงเล่นให้กับฝ่ายหนึ่งไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และ ไม่มีใครในโคคุเรียวรวมทั้งอาณาจักรใกล้ๆ ที่คิดว่ารัชทายาททัมด๊กจะเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป และถวายฎีกา ว่ามาจากตระกูลขุนนาง ขอร้องให้กษัตริย์ทรงเปลี่ยนรัชทายาท พวกเราก็รู้ดีว่ามีคนที่เกิดภายใต้ดวงดาวจูชินที่ทุกคนในดินแดนนี้รู้กันทั้งนั้น แล้วก็เดินไปหยุดตรงหน้ายอนโฮแก ถามว่าฝ่าบาทไม่ทรงทราบหรือ
กษัตริย์ทรงถามว่า บรรดาผู้นำทั้งหลาย มีความเห็นเช่นเดียวกันหรือ บรรดาผู้นำแคว้น ต่างกราบทูลไปทางเดียวกันว่าทุกคนรอคอย กษัตริย์แห่งจูชิน และผู้พิทักษ์ ทั้งสี่ กษัตริย์ พยักพระพักตร์เป็นเชิงบอกว่า ข้าได้ยินแล้ว ทรงถามขุนพล โก อูซุง ว่า เขาอยู่ที่หรือไม่ แล้วเทวีพยากรณ์ ก็ เข้ามาพร้อมนักพรต อีก 3 คน ขออนุญาตสภาเสนาบดีเพื่อเข้ามาเป็นพยาน กษัตริย์ทรงอนุญาต ทุกคนในท้องพระโรงเหลียวมองเทวีพยากรณ์


เทวีพยากรณ์ กล่าวว่า เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ข้าเป็นนักพรตในอารามในเวลานั้นอารามหลวงได้รับคำสั่งจากสวรรค์
ในอารามบรรดารูปปั้นต่างๆ พากันสั่นไหว อุปกรณ์ที่ใช้แขวนประดับแกว่งไกว มีลมกรรโชกแรง เทียนทุกเล่มที่จุดสว่างไสว ไหววูบวาบตามแรงลม แต่ไม่ดับ อารามหลวงได้รับคำพยากรณ์ว่า......
“ ดวงดาวที่ไม่เหมือนดวงดาวดวงอื่นจะปรากฏ เมื่อกษัตริย์ที่ไม่เหมือนกษัตริย์พระองค์อื่น ๆ จะประสูติ
จนกว่ากษัตริย์จะได้รับการปลุกขึ้นเป็นกษัตริย์ สายลมจะพัดผ่านเฉกเช่นใบไม้
ปิดบังสิ่งที่ได้ยิน ปิดบังสิ่งที่ได้เห็น
จนกว่าเขาจะตื่นขึ้นมาจากเสียงเรียกที่แท้จริง
จงจำไว้ให้ดีอย่าได้ลืมเลือน”
ภาพของละครจะเป็น นักพรต 4 คนขี่ม้าไปที่บ้านพักนอกเมืองขององค์ชายออจิจี เมื่อ องค์ชาย ออจิจี นำนักพรตเปิดประตูเข้าไปที่ห้องของพระชายา ที่เตรียมเชือกสำหรับการคลอด พบความว่างเปล่าบนเตียง จึงพากันมุ่งหน้า ไปที่ยอดเขา ในขณะที่ดวงดาวจูชิน เปล่งประกายวาบเรืองเป็นวงแหวนบนท้องฟ้า บรรดาม้าก็พาองค์ชายออจิจี และนักพรต ไปถึงพอดี กับเสียงร้องของทารกแรกเกิด องค์ชายทัมด๊กประสูติบนกองฟางที่รองรับพระมารดาอยู่ แล้วประกายวาบเรืองเป็นวงแหวน ก็วูบหายไป เหลือแต่แสงดาวของดาวจูชิน
เทวีพยากรณ์กล่าวต่อว่า มันถูกต้องแล้ว คืนที่ดวงดาวแห่งจูชินปรากฏ องค์ชายที่เกิดมาจากสายเลือดแห่งราชวงศ์ ก็คือองค์ชายทัมด๊ก



ทุกคนตะลึงงันกับเรื่องราวที่ได้ยิน คนสนิทของเสนาบดียอน รีบแก้ไขสถานการณ์ ขัดขึ้นว่า เป็นที่รู้กันว่า ท่าน ยอนโฮแก ต่างหากที่เกิดภายใต้ดวงดาวจูชิน เทวีพยากรณ์ตอบว่า นั่นคือสิ่งที่ท่านอ้าง คนคนเดียวที่จะอ้างได้ว่าเกิดภายใต้ดวงดาวจูชินก็คือองค์ชายทัมด๊ก
คนสนิทเสนาบดียอนถามเทวีพยากรณ์ว่า :ท่านกล่าวสิ่งที่เหลวไหลได้อย่างไร
เทวีพยากรณ์ ตอบว่า อารามจะกล่าวเฉพาะคำพูดจากสวรรค์เท่านั้น ท่านกล้ากล่าวหาสวรรค์ และพูดว่าโกหกอย่างนั้นหรือ
เสนาบดียอนที่อึ้งไปนานกล่าวขึ้นว่า ท่านหมายความว่าข้ออ้างนี้รู้กันเฉพาะกษัตริย์และอารามหลวงเท่านั้น ?
กษัตริย์ ตอบว่า เพราะเราต้องปกป้องเขา นั่นเป็นหนทางเดียวที่พ่อผู้อ่อนแอจะปกป้องลูกชายของเขาได้ ตอนนี้ข้าต้องการจะสละราชบัลลังก์ แล้วส่งต่อไปให้เจ้าของที่แท้จริง
ทุกคนในที่ประชุม ส่งเสียงอื้ออึง ไม่เห็นด้วย บรรดาผู้นำ และ ยอนโฮแก ลุกขึ้นยืน แต่กษัตริย์ ยกสองพระหัตถ์ห้าม เทวีพยากรณ์คลี่พระราชโองการอ่านว่า เวลาเที่ยงวันของพรุ่งนี้จะมีพิธีราชาภิเษกองค์รัชทายาททัมด๊ก ขอเชิญทั้ง 5 แคว้นของโคคุเรียว เตรียมตัวเข้าเฝ้ากษัตริย์พระองค์ใหม่ สวรรค์จะได้บรรลุวัตถุประสงค์
เสนาบดียอนมองกษัตริย์อย่างไม่ยอมแพ้ ส่วน ยอนโฮแก มีท่าทางครุ่นคิดกับสิ่งที่ได้ยินในวันนี้
กัมดงองครักษ์ในวังหลวง เป็นสายลับของหมู่บ้านโคมิลมาแจ้งข่าวนี้ให้ ฮยอนโก ทราบ ฮยอนโก สับสนไม่อยากเชื่อข่าวนี้ แต่ ตัวเองก็รู้ว่า เทวีพยากรณ์ของโคคุเรียวจะไม่กล่าวคำเท็จ ฮยอนโกจะกลับไปที่หมู่บ้านเพื่อตรวจสอบบันทึกใหม่อีกครั้ง กัมดง แย้งว่า หัวหน้าไม่ห่วงซูจินีหรือ ฮยอนโก ตอบว่า ถึงข้าจะเป็นอาจารย์ แต่ข้าก็ยังเป็นหัวหน้าของหมู่บ้านโคมิล (เรื่องของส่วนรวมต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัว)
เสนาบดียอน ไม่เชื่อและมีความคิดว่า กษัตริย์และเทวีพยากรณ์ กำลังฝ่าฝืนโองการสวรรค์ และคิดจัดการเรื่องนี้ เพื่อให้ ยอนโฮแก ขึ้นเป็นกษัตริย์
เทวีพยากรณ์ เต็มไปด้วยความกังวลใจว่ากษัตริย์ควรจะรอต่อไปอีกหน่อย เทวีพยากรณ์(คนก่อน)บอกหม่อมฉันว่า นางได้ยินชัด ว่า เราจะต้องปกป้องพระองค์เป็นความลับ จนกว่ากษัตริย์จะตระหนักว่าทรงเป็นใคร



กษัตริย์บอกเทวีพยากรณ์ เรื่องที่ องค์ชายจะยกบัลลังก์ให้ ยอนโฮแก เพราะเชื่อว่า ยอนโฮแก เกิดภายใต้ดวงดาวจูชิน จึงควรเป็นกษัตริย์ และองค์ชายขอให้พระองค์อนุญาตให้องค์ชาย หนีไปกับผู้หญิงที่องค์ชายรัก ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ในที่ไกลแสนไกลซึ่งพระองค์ยอมไม่ได้ เทวีพยากรณ์เป็นห่วงองค์ชายว่า เสนาบดียอนคงไม่ยอมง่าย ๆ และองค์ชายจะมีอันตราย กษัตริย์ตรัสอย่างยอมรับว่า หากนี่เป็นสาเหตุให้องค์ชายต้องตาย เขาคงไม่ใช่กษัตริย์ที่แท้จริง ถ้า ยอนโฮแก จะต้องเป็นกษัตริย์ มันก็ถูกต้องที่เขาจะได้เป็น เทวีพยากรณ์ถามว่า พระองค์ ยังไม่แน่พระทัยในตัวของพระโอรสของพระองค์เองหรือ กษัตริย์ทรงตอบว่า ข้าไม่ได้ปกป้องเขาในฐานะลูกชายของข้า ข้าปกป้องเขาในฐานะประชาชนของจูชิน ถ้าไม่มีใครไปปลุกให้เขาตื่นขึ้นจากการหลับ นั่นเราคงจะปกป้องผิดคน
(ที่องค์ชายทัมด๊ก ยังไม่ตื่นจากการหลับใหลที่ดูว่ายาวนาน เพราะสวรรค์ลิขิตไว้แบบนี้นั่นเอง)
ส่วนองค์ชาย ที่ยังถูกกักบริเวณที่สุสานหลวง ก็ทูลกับบรรพบุรุษของพระองค์ว่า หม่อมฉันจะสละราชบัลลังก์ จะได้ไม่มีการนองเลือดในโคคุเรียว อย่าทรงเป็นห่วง แล้ว ก็ ประทับนั่งหันข้างให้โต๊ะบูชา และดาบของกษัตริย์จูมง ทูลต่อว่า โฮแกจะเป็นกษัตริย์ที่ดี ตอนเรายังเด็ก มีเขาคนเดียวที่หัวเราะให้หม่อมฉัน เขาอยากเป็นเพื่อนกับหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันฆ่าแม่ของเขาเพื่อปกป้องเสด็จพ่อของหม่อมฉัน แล้วหันไปทอดพระเนตรที่ดาบ ทูลถามต่อว่าพระองค์ทรงเงียบเพราะทรงเห็นด้วยใช่ไหมพะย่ะค่ะ องค์ชาย ทอดพระเนตรอยู่อึดใจแล้วก็ก้มพระพักตร์ลง ไม่ทันได้เห็นประกายสว่างจ้าที่วาบขึ้นบนดาบของกษัตริย์จูมง แล้วก็ วูบหายไป
กษัตริย์เสด็จไปหาฮีกแกที่ประตูเมือง พามายังท้องพระโรง ฮีกแก ทูลว่า หม่อมฉันฮีกแก แห่งจุนโน ถึงแม้คำกราบทูลของหม่อมฉันจะทำให้ทรงไม่สบายพระทัยแต่ทรงฟังบ้าง ฝ่าบาทอย่าตกอยู่ในกลอุบายของตระกูลยอนอย่าทรงจำคุก ลูกหลานของจุนโนที่บริสุทธิ์ เพื่อให้ตระกูลยอนพอใจ ถ้าพวกนั้นทำผิดต่อองค์กษัตริย์พวกเขาควรถูกจำคุกในคุกหลวง กษัตริย์ของอาณาจักร เป็นอะไร ไปหรือ
กษัตริย์ถามว่า ท่านพูดจบแล้วหรือยัง ฮีกแกกราบทูลว่า ยัง มีเรื่องจะกราบทูลอีก หากหม่อมฉันไม่สามารถพูดสิ่งที่อยากพูด เช่นนั้นแล้ว หม่อมฉันจะตายเพราะหัวใจระเบิดลงตรงนี้
กษัตริย์ ทรงขัดขึ้นว่า ท่านมีลูกสาวใช่ไหม ท่านเห็นองค์รัชทายาทที่สนามแข่งขันแล้วใช่ไหม ท่านคิดว่าเขาเป็นอย่างไร แคว้นจุนโนจะยอมรับ องค์รัชทายาทเป็นลูกเขยไหม พรุ่งนี้กษัตริย์พระองค์ใหม่จะขึ้นครองราชย์ ข้ากำลังขอให้ท่านมอบราชินีให้กับเขา มีราชินีหลายพระองค์มาจากแคว้นจุนโนท่านจะสนับสนุนข้าหรือไม่ถึงแม้เสนาบดีอื่นๆ จะไม่เห็นด้วย ถ้าท่านสนับสนุนข้าท่านอาจจะถูกตัดสินว่าเป็นศัตรูกับเผ่าอื่นๆ


ฮีกแก กราบทูลว่า กษัตริย์จะไม่ขอการสนับสนุนจากเสนาบดี กษัตริย์ทรงเป็นหัว ข้าราชบริพารเป็นแขนขา คนประเภทไหนกันที่จะขอให้นิ้วมือนิ้วเท้าของเขาเองทำสิ่งที่เขาต้องการ
กษัตริย์ ทรงตรัสว่า ถ้าท่านสนับสนุนข้า ท่านอาจจะไม่ได้เห็นคนของท่านที่ถูกขังอยู่ที่บ้านตระกูลยอน ข้ากำลังขอให้ท่านสละชีวิตเพื่อกษัตริย์พระองค์ใหม่
ฮีกแก หลับตาลงอึดใจ แล้ว กราบทูลว่า ฝ่าบาท อย่าทรงขอสิ่งนั้นจากหม่อมฉัน สิ่งที่ต้องทำก็คือ สั่งหม่อมฉันพะย่ะค่ะ
เสนาบดียอน เมื่ออกจากท้องพระโรงก็บ่นกับยอนโฮแก ถึงคำบอกเล่าของเทวีพยากรณ์ว่า นั่นเป็นเรื่องเหลวไหล เทวีพยากรณ์กล้าหลอกลวงสวรรค์ ด้วยการอ้างว่า ทัมด๊กเกิดภายใต้ดวงดาว ยอนโฮแกถามว่าท่านพ่อเชื่อเรื่องดวงดาวจูชินจริงหรือ ดวงดาวอะไรกันและอะไรจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาเรื่องเหลวไหลนั่นทำให้ท่านแม่ต้องตาย ข้าไม่รู้ว่าท่านพ่อก็เชื่อด้วย
เสนาบดียอนตอบว่า เจ้าพูดถูก ข้าไม่เคยเชื่อจนกระทั่งข้าเห็นด้วยตาของข้าเอง กษัตริย์และเทวีพยากรณ์กำลังฝ่าฝืนโองการสวรรค์ แม่ของเจ้าสละชีวิต เพื่อพยายามทำตามโองการสวรรค์ เจ้าต้องการทำอะไร ถ้าเจ้าเป็นกษัตริย์จูชินจริง ข้าจะโค้งคำนับและภักดีต่อเจ้า
ยอนโฮแกหน้าเสียถามว่า ท่านพ่อต้องการก่อจลาจลหรือ
เสนาบดียอนตอบว่า แค่ก่อกวนองค์รัชทายาทที่สนามแข่งขัน เจ้าก็พอใจแล้วหรือ เจ้าจะพอใจหรือเมื่อ ทัมด๊กจะมอบบัลลังก์ให้เจ้า เจ้าพอใจที่จะคุกเข่าต่อหน้าเขาเพื่อรับบัลลังก์หรือ นั่นคือกษัตริย์จูชินหรือ
ยอนโฮแกเริ่มคล้อยตาม แล้วเสนาบดียอน ก็นั่งเกี้ยว ไปที่พำนักลับฮวาเซิน ระหว่างทาง เสนาบดียอนเล่าว่า มันเป็นเรื่องที่เล่าต่อกันมา หัวใจฟินิกซ์ เป็นหนึ่งในสี่ของสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านฮวานอุงทิ้งไว้ กล่าวกันว่าจะส่องรัศมีหากกษัตริย์จูชินและผู้พิทักษ์เข้าใกล้กัน ข้าเห็นแสงรัศมีนั่นเมื่อเจ้าอยู่กับนักพรตหญิงคนนั้น หัวใจฟินิกซ์ส่องสว่างขึ้น เจ้ารู้ใช่ไหมว่ามีคนกำลังรอคอยการกลับมาของกษัตริย์จูชินหลายพันปี พวกนั้นมาหาข้า ถึงแม้เทวีพยากรณ์จะกล่าวเท็จ พวกนั้นเชื่อว่าเจ้าคือกษัตริย์จูชิน พวกนั้นมาเพื่อตามหาเจ้า
เมื่อไปถึงที่พักลับฮวาเซิน ซารยางเชิญเสนาบดีไปยังห้องหนึ่งส่วนยอนโฮแก ไปอีกห้องที่มีโซคีฮานั่งอยู่ก่อนแล้ว
แทจังโร บอกว่า กษัตริย์ทรงฉลาดที่รีบยกบัลลังก์ให้รัชทายาท เสนาบดียอนถามว่า ท่านบอกว่าลูกข้าคือกษัตริย์จูชิน ท่านจะทำทุกอย่างเพื่อกษัตริย์จูชิน ลูกชายข้าต้องเป็นกษัตริย์แห่งโคคุเรียว กษัตริย์(หยาง)ต้องไม่ใช้ความโลภของพระองค์ในการขัดขวางโองการแห่งสวรรค์
แทจังโร : หัวใจฟินิกซ์ยืนยันเช่นนั้น แล้วก็ทำท่าทางนบนอบเสียเหลือประมาณ บัลลังก์ของโคคุเรียวจะต้องเป็นของท่าน แล้วก็ผายมือเชิญเสนาบดี ไปยังห้องพิธี ทีมีสาวก ฮวาเซินยืนเรียงราย
แทจังโรกล่าวขึ้นว่า เผ่าฮวาเซินของพวกเราได้รอคอยการกลับมาของกษัตริย์จูชินเป็นเวลา สองพันปีมาแล้ว ตอนนี้เราพบพระองค์และผู้พิทักษ์หัวใจฟินิกซ์ (โฮแกและคีฮา ยืนเคียงกันอยู่) พวกเราเต็มไปด้วยความยินดี และสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์อีก สามสิ่ง ก็จะตามมาเช่นกัน มาหาเราเถอะ แล้วสาวก ก็ ตะโกนพร้อม ๆกัน กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้พิทักษ์ ทั้งสี่ แทวังซาชิน แทวังซาชิน แทวัง ซาชิน
ในระหว่างนั้น บุตรชายคนโตของ ผู้นำแคว้น กวานโน แคว้นโซโน และแคว้น ซุนโน ถูก ทหารฮวานซินในชุดแดงจับตัวไว้หมด
โซคีฮา บอกแทจังโรว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะร่วมกันคิดกบฏ องค์รัชทายาทไม่มีความปรารถนา เป็นกษัตริย์
แทจังโร ตอบว่า เจ้าพูดแปลกๆ คิดกบฏและองค์รัชทายาท นั่นเป็นคำพูดของคนโคคุเรียวพวกนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า คีฮา....
โซคีฮาถามว่า ท่านจะฆ่าเขาไหม ฆ่าไหม
แทจังโร บอกว่า ข้าจำได้ว่า เมื่อ 5-6 ปีก่อน เจ้ามาขอยาแก้พิษของยาพิษให้กับกษัตริย์ มันเริ่มจากนั้น ชื่อของเขาทัมด๊ก ข้าขอถามเจ้าข้อหนึ่ง เพื่อชีวิตของคนเล็กๆคนหนึ่ง เจ้าจะยอมเสี่ยงกับความฝันนับพันปีของคนฮวาเซินหรือ แล้วก็ยกสายสร้อยขึ้น อย่าลืม คีฮา.... อย่าลืมเรื่องที่เกิดกับฟินิกซ์ ที่ปล่อยให้ความรู้สึกเหนือนาง นางให้หัวใจและสูญเสียพลังฟินิกซ์ (แล้วก็เป็นภาพ คาจินถูกเทพฮวานอุงเก็บพลังไฟใส่ลูกแก้ว แล้วคาจินหงายหลังลงหน้าผา) แทจังโรสวมสร้อยให้โซคีฮา อย่าลืมเรื่องนั้น ว่าเราสูญเสียพลังและดินแดนอย่างไร แล้วก็เอามือจับไหล่โซคีฮาที่แทจังโรฝังสัญลักษณ์สาวกฮวาเซินไว้ ย้ำว่า ถ้ามีใครมาเอาหัวใจของฟินิกซ์ของเรา เขาจะกลายเป็นศัตรูของฮวาเซิน แล้วก็ใช้ เวทย์มนตร์สะกดโซ คีฮา
ในที่ประชุมเสนาบดี เสนาบดียอน ใส่ร้ายกษัตริย์กับผู้นำแคว้น ว่า กษัตริย์ เป็นผู้ จับตัวบุตรชายคนโตของแต่ละเผ่าไป เพื่อบีบบังคับผู้นำแคว้น ในพิธีราชาภิเษกกษัตริย์พระองค์ใหม่ และให้เหตุผลว่า ที่กษัตริย์ทรงรีบร้อนจัดพิธีราชาภิเษก เพราะขณะนี้ มีสัญญาณจากสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ ยอมรับกษัตริย์จูชินพระองค์จริง ไม่ใช่องค์ปลอมแล้ว แล้วโซคีฮาก็เข้ามา ในที่ประชุม ผู้นำแคว้นเอะอะที่มีนักพรตหญิงเข้ามาในที่ประชุมเสนาบดียอนแนะนำว่านี่คือผู้พิทักษ์สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์หัวใจฟินิกซ์ ผู้นำแคว้นพากันเบะปาก
โซคีฮา เริ่มบทบาท ว่าข้าขอส่งสารถึงลูกหลานจูชิน กษัตริย์จูชินทรงพระราชดำเนินอยู่ในแผ่นดิน แต่ประชาชนกลับจำพระองค์ไม่ได้ ตอนนี้ถึงเวลาที่จะทรงขึ้นเป็นกษัตริย์และรวบรวมดินแดนจูชินเข้าด้วยกัน กษัตริย์ของคนธรรมดาสามัญไม่สามารถหยุดยั้งกษัตริย์แห่งสวรรค์ได้
ผู้นำแคว้นตะโกน เรื่องเหลวไหลอะไรกัน
แล้วก็มีรัศมีสีแดงเพลิงส่องรัศมีรอบตัวโซคีฮา
ที่สุสานหลวง องค์ชายทัมด๊กทรงรู้สึก มีบางสิ่งกระทบพระหทัย
ฮยอนยอง มองเห็น แสงรัศมี ก็รีบไปหาฮยอนโก
ในที่ประชุม โซคีฮา พูดว่า ผู้พิทักษ์แห่งใต้ และผู้เก็บรักษาไฟ ผู้พิทักษ์หัวใจฟินิกซ์ ขอถวายความเคารพต่อกษัตริย์จูชิน แล้วโซคีฮา ก็ทรุดตัวลงคุกเข่า ตรงหน้า ยอนโฮแก มีแทจังโรยืนแสยะยิ้ม อยู่ข้างนอก
ทัมด๊ก ทรงแปลกพระทัยในความรู้สึกของพระองค์เอง
(หมายเหตุ -หัวใจฟินิกซ์จะถูกปลุก ด้วยความรู้สึก ที่ดูดดื่ม หากผู้พิทักษ์ และกษัตริย์จูชิน รู้สึกถึงกัน )

Copyright@ Amornbyj & SUE