Saturday, May 3, 2008

เรื่องย่อ ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ ( ตอนที่ 8 )


ตอนที่ 8
ที่พำนักลับฮวาเซิน
ยอนโฮแกดีใจหน้าชื่นที่เห็น โซคีฮา กลับมาตามสัญญา แต่แล้วก็เหมือนดอกไม้บานถูกน้ำร้อนราดรด เมื่อโซคีฮา มีเรื่องขอร้อง ยอนโฮแก บอกว่า ผู้พิทักษ์ต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการ ข้าไม่แน่ใจว่าท่านจะกลับมา ข้ารู้ว่า ท่านและรัชทายาทเป็นเพื่อนกัน โซคีฮา ตอบว่า เราไม่ใช่เพื่อน ทรงเป็นคนที่ข้ารัก ทรงเป็นคนที่ข้าปรารถนาในชีวิต ข้าหวังว่าท่านจะหาใครที่เหมาะสมกว่าที่จะเป็นผู้พิทักษ์หัวใจฟินิกซ์ ข้าไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้พิทักษ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้พิทักษ์หรืออาณาจักรจูชิน มันไม่มีความหมายกับข้า พวกนั้นไม่มีค่าสำหรับข้า
ยอนโฮแก หน้าเศร้า ถามว่า ใครๆก็เป็นผู้พิทักษ์ได้หรือ เป็นเจ้าของหัวใจฟินิกซ์ได้หรือ ตอนที่ท่านกล่าวต่อหน้าคนอื่น ในฐานะข้าเป็นกษัตริย์ มันไม่มีความหมายเช่นนั้นหรือ โซคีฮา ตอบว่า ข้าทำเพื่อช่วยเขา ข้าทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นเพื่อเขา ท่านไปเป็นกษัตริย์ กษัตริย์ของโคคุเรียว เป็นกษัตริย์ของจูชิน ปล่อยข้าไปกับเขา ท่านจะไม่ได้เห็นเขาอีก ท่านจะไม่ได้ยินเรื่องเขาอีก
โถ ยอนโฮแก เดินเซซังออกมาจากห้อง


โซคีฮา ขอให้ ซารยางช่วย ทีมโปโลสีดำ ซารยางไปว่าจ้าง ทหารรับจ้าง จูมูชิ จูมูชิ บอกข้อแม้การรับงาน 3 ข้อ แต่ก็ยอมรับเงินถุงใหญ่เมื่อรู้ว่า ให้ไปช่วย ทีมโปโลสีดำ และต้องช่วยก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ซารยางบอกว่าข้ามีเหตุผลที่ทำให้ลงมือเองไม่ได้ แล้วซารยางก็ไปรายงาน โชคีฮา ว่า ทีมโปโลสีดำจะมีคนมาช่วยใน 1 ชั่วโมง และได้แจ้งไปที่เผ่าจุนโนแล้ว พวกจุนโนจะไปที่ชายแดน และนำรัชทายาทกลับไปจุนโน แต่แล้วความนี้ก็ไม่รอดพ้น แทจังโร แทจังโร ใช้อาคม ลงโทษซารยางล้มลุกคลุกคลานเลือดกลบปากในห้องพิธี ถามว่า เจ้าคิดว่านั่นจะช่วยฟินิกซ์หรือ



จูมูชิ ส่งมันดัก ไปสอดแนม มันดัก ส่งสัยว่า มันไม่แปลกหน่อยหรือ ไปช่วยคนกลางวันแสกๆ เราควรจะรอให้มืดสักหน่อย จูมูชิ ตอบว่า ตอนกลางวันจะมียามน้อยกว่า พยามยามอย่าฆ่าใคร เอาแค่หมดสติก็พอ มันดัก ทวนความ เราต้องช่วยชีวิตในเวลากลางวัน และห้ามฆ่าพวกเขาอย่างนั้นหรือ จูมูชิ บอกว่า ครอบครัวใหญ่นี้อาจเป็นลูกค้าของเราในวันหน้า และไม่มีประโยชน์ที่จะเอาชีวิตกัน
ฮยอนโก และฮยอนยอง มาหา บาซอน เพื่อจะจ้าง จูมูชิ เช่นกัน บาซอน บอกว่ามีคนจ้างพวกเขาแทนหัวหน้าที่ไร้ประโยชน์ แล้ว ฮยอนโกถ ามว่า บาซอน จ้างหรือ บาซอน ตอบว่า ข้ากำลังจะทำ แต่ว่าเผ่าจุนโน ส่งคนมาที่นี้พร้อมกับเงินถุงใหญ่ ฮยอนโก แทนที่จะดีใจกลับตกใจ วิ่งอ้าวออกไป และบอกว่า นี่เป็นกับดัก ( ในเรื่องนี้ ฮยอนโก เป็นคนฉลาด สุขุมรอบคอบ ซ่อนตัวตนที่แท้จริงในคราบคนติ๊งต๊องนิดๆ เป๋อเหล๋อ อีกต่างหากขอบอกกล่าวไว้ตรงนี้เลย พอฟัดพอเหวี่ยงกับ แทจังโร )


ดัลบี เป็นภรรยาหัวหน้านายทหารคนหนึ่งของบ้านตระกูลยอน มีหน้าที่ดูแลอาหารนักโทษ หิ้วตะกร้าอาหาร มาเจอสามีพอดี และตามสามีเข้าไปที่คุมขัง นายทหารเข้ามาก่อนแล้วก็ต้องตกใจ ที่มีทหารยามถูกฆ่าตาย แล้ว สามี ของ ดัลบี ก็ถูกซารยางฆ่าตายเช่นกัน ดัลบี ที่ตามมาเห็นศพสามี ก็ตกใจ ทิ้งตะกร้าลงพื้น ซารยางที่กำลังจะออกไปได้ยินเสียงจึงพุ่งดาบใส่ตั้งใจจะฆ่า ดัลบี อีกคน แต่แล้วก็มีเศษวัตถุ กระทบดาบจนเปลี่ยนทิศทาง ซารยางมองหาที่มาของเศษวัตถุนั้น แล้วก็สบตากับสายตา ซูจินี ข้างนอกนั้น จูมูชิพยายามบุกเข้ามา ซารยางล้วงอาวุธลับจากอกเสื้อขว้างไปที่ ดัลบี อีก ดัลบี ยกสองมือกุมหัวตัวเองว่าคราวนี้ต้องตายแน่ๆ แล้ว อาวุธลับก็เปลี่ยนทิศทางอีก ซารยางเหลียวขวับมอง ซูจินี ซูจินี ย่อตัวหยิบหยิบเศษหินมาเตรียมพร้อมไว้ ซารยางจะซัดอาวุธลับเป็นครั้งที่ 2 แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เมื่อได้ยินเสียง... หัวหน้า..... ดูนี่ ซารยางคว้าแท่งเทียนขว้างเข้าไปตกลงพื้นแล้วเดินออกมา แอบทิ้งสัญลักษณ์เผ่าจุนโน ไว้ที่พื้น เกิดไฟไหม้ในห้องขัง แล้วซารยางก็ตะโกนว่าคุกแตก คนของจุนโนแหกคุก ซูจินี เห็นไฟลุกกลับเหมือนคนถูกสะกดจิตยืนนิ่ง โซวดูรู (บุตรชายคนโตของ หมู่บ้านฮักคู แคว้นจุนโน) ต้องถอดเสื้อคลุมให้ แล้วเอา ซูจินี พาดหลังพาหนีออกมา ทหารบ้านตระกูลยอน กรูกันเข้ามาขวาง จูมูชิ บ่นว่า เราได้ค่าจ้างไม่พอสำหรับเรื่องนี้ จูมูชิ เอ๋ย ชีวิตของเจ้าเต็มไปด้วยความสูญเสียเสมอ (จูมูชิ คนนี้งกเงิน ) แล้วก็บอกทหารบ้านตระกูลยอนว่า พวกเราไม่อยากฆ่าใคร ฉะนั้นถ้าอยากมีชีวิตถอยไป แต่ทหารบ้านตระกูลยอนไม่ฟัง จูมูชิ สู้ไปถอยไป แล้วก็บอกพรรคพวกว่า ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ฆ่าใคร ลืมที่ข้าพูดเสีย

ซูจินี ที่ถูก โซวดูรู ช่วยออกมา ตื่นจากภวังค์เมื่อเห็นการต่อสู้ สะบัดเสื้อ โซวดูรู ที่คลุมหัวออกไป ตะโกนว่า มันจุดไฟต่อหน้าข้า แล้วก็ถลาเข้าไปแย่งดาบมาจากทหารบ้านตระกูลยอน เข้าไปร่วมวง จนหลังมาชนกับจูมูชิ จูมูชิคว้าซูจินีไว้ บอกให้หนีไปพร้อมคนอื่น แล้วจูมูชิ ก็บอกลูกน้องว่า ข้าจะไปเจอพวกเจ้าข้างนอก จูมูชิ หนีออกมา แล้ว ลั่นดาลประตูบ้านตระกูลยอนจากข้างนอก บาซอน และ ฮยอนโก บังคับรถม้าเข้ามา บาซอน กระโดดลงมากอด ซูจินี แบบรักและห่วง จูมูชิ ตะโกนว่า ไม่มีเวลากอดกันแล้ว ขึ้นมาเร็วๆ พวกทีมโปโล รีบขึ้นรถม้า จูมูชิ ยืนคอยพรรคพวก แล้ว มันดัก ก็พาพรรคพวกทหารรับจ้าง ปีนไต่ต้นไม้ กระโดดข้ามออกมานอกกำแพงบ้าน ทหารบ้านตระกูลยอน เปิดประตูบ้านออกมาไม่ได้ เพราะจูมูชิ ลั่นดาล จากข้างนอก


ที่พักลับ ฮวาเซิน
แทจังโร ยืนอยู่หน้า โซคีฮา : ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับชายคนที่เจ้าบอกว่ารัก ข้าเตือนเจ้าแล้วว่ามันเป็นความผิดของเจ้าเอง เจ้าวางแผนจะส่งรัชทายาท ทัมด๊กไ ปจุนโน แล้วเจ้าจะตามเขาไปที่นั่นหรือ เจ้าคิดจะทิ้งฮวาเซิน และฟินิกซ์หรือ เจ้าคิดจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขหรือ แทจังโร อ้อมไปข้างหลังกางสองมือตัวเองเกาะไหล่ โซคีฮา ทำเสียงพ่อมดหมอผี เจ้าต้องการเอาเชือกไปแขวนเขาหรือ แต่.....ข้าจะตัดเชือกนั่นเอง ข้าจะดูแลกษัตริย์และรัชทายาทพร้อมๆกัน แล้วก็อ้อมมาข้างหน้า โซคีฮา รัชทายาททัมด๊ก จะไม่มีโอกาสได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้ โซคีฮา ที่นั่งนิ่งมาเหมือนไม่รับรู้มาตลอด ดวงตาเริ่มไหววูบ แทจังโร พูดต่อ เจ้าเคยถามข้าครั้งหนึ่ง... เจ้าเคยถามว่า ข้าอายุเท่าไร แทจังโร หลับตาลง คำรามเสียงในลำคอ มันนานเหลือเกิน...นานจนข้าจำไม่ได้ คนนับไม่ถ้วนเกิดและตายในช่วงอายุของข้า ข้าจำได้เพียงสิ่งเดียว ข้าจำคาจินได้ ผู้หญิงที่โง่เขลา ที่สูญเสียพลังแห่งไฟ และเสี่ยงทุกอย่างเพื่อความรัก...มีภาพคาจินใช้ดาบที่มีเพลิงไฟ พุ่งเข้าหาเทพฮวานอุง และ... คาจิน หงายหลังลงหน้าผา.....ข้าจำได้ว่า พวกเราคนของโลกอยู่กันอย่างไรหลังจากนั้น (ทำเสียงสะกดจิตเชียว แหบๆ แต่มีพลัง เสียงแบบนี้ ชอยมินซู คนแสดง ทำได้คนเดียว) คีฮา......เจ้าต้องการให้พวกเรา อยู่เช่นนั้นอีกหรือ นั่นคือสิ่งที่เจ้าที่เจ้าต้องการหรือ...
โซคีฮา ไม่ตอบความใดๆ นิ่งเงียบอย่างเดิม มีเพียงสายตาที่สื่อว่ารับรู้เรื่องที่ แทจังโร พูดมา

ที่โรงตีเหล็กของ บาซอน ฮยอนยอง มารายงาน ฮยอนโก ที่ห้องลับเช่นกัน ว่าบานประตูทั้ง4 ปิด มีทหารรักษาการณ์นับไม่ถ้วน โดยเฉพาะทิศเหนือ มียามรักษาการณ์เป็น 2 เท่า และมีกองทหารม้าเหล็ก จูมูชิ บอกว่า ใจเย็น บาซอน จะพาพวกเราผ่านประตูทิศใต้ได้ โซวดูรู ค้านว่า แต่หมู่บ้านนั่นอยู่ทางทิศเหนือจากที่นี่ จูมูชิ : จากประตูทิศใต้ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง พารัชทายาทของเราไปที่จุนโน และนั่นเป็นหน้าที่ของข้า
โซวดูรู เห็น ซูจินี นั่งนิ่งก็เป็นห่วง บอกว่า พักผ่อนนะแล้วอย่าละเมออีก ซูจินี ยกมือทำท่าว่ารู้แล้วรู้แล้ว
ในห้องเหลือแต่ ซูจินี ฮยอนโก ฮยอนยอง ฮยอนยอง บ่นว่า มีใครบางคนเจตนาปล่อยข่างลือผิด ๆว่า ผู้นำของจุนโนเอาคนบุกเข้าไปช่วยคนของเขาในเรือนจำ ข่าวลือไปทั่ว ท่านรู้ไหมว่าเป็นใคร ฮยอนโก ย้อนว่า: ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ข้าเพิ่งรับรู้จากเจ้า ทำไมเพิ่งบอกตอนนี้ อา.... ซูจินี เจ้าคิดว่าใครอยู่เบื้องหลัง แล้วทั้งสองคนก็ตกใจ ซูจินี หายไปจากตรงที่นั่ง


ซูจินี เจอ จูมูชิ จูมูชิ รู้ว่า ซูจินี จะไปชายแดน บอกว่า ไม่ว่าอย่างไรมันยากเกินไปสำหรับเจ้าที่จะไปชายแดนด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้น........พูดไม่จบ ซูจินี ที่คล่องแคล่วปราดเปรียว ก็วิ่งไป เสียแล้ว จูมูชิ ได้แต่บ่น ข้าจะทำอย่างไรกับเด็กนี่ดี
ทหารบ้านตระกูลยอนสำรวจเพลิงไหม้พบสัญลักษณ์ของเผ่าจุนโน
บรรดาผู้นำเผ่า จะไปเผ้ากษัตริย์เพื่อถามว่าทรงต้องการสิ่งใด เสนาบดียอน : แล้วถ้าทรงบอกสิ่งที่ทรงต้องการท่านจะถวายให้ฝ่าบาทหรือ แล้วถ้าทรงต้องการให้รัชทายาท ทัมด๊ก ขึ้นครองราชย์อีกเล่าท่านจะตกลงไหม ท่านคิดว่าจะทรงคืนบุตรชายให้พวกท่านหรือ ไม่แน่นอน ถ้าทรงขังบุตรชายของพวกท่านไว้ ฝ่าบาทจะทรงมีอำนาจเหนือพวกท่าน โคคุเรียวต้องไม่ยอมให้คนที่ลักพาตัวเด็กเป็นกษัตริย์ เราไม่สามารถรับใช้กษัตริย์เช่นนี้ได้ การต่อสู้ครั้งนี้ ฝ่าบาทเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน



ขุนพลโกเข้าเผ้ากษัตริย์ รายงานว่าประตูทิศตะวันออก ตะวันตก ทิศใต้ แตกแล้ว ทรงโปรดมีพระบรมราชโองการส่งทหารม้าเหล็กออกไป กษัตริย์ทรงตอบว่า ถ้าส่งออกไปลูกหลานโคคุเรียวต้องนองเลือด ทหารม้าเหล็กประกอบไปด้วย บุตรชายตระกูลขุนนางของ 3 เผ่า หากส่งพวกเขาออกไปเขาจะเอาดาบไปจ่อคอใครเล่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกเขาต่อสู้กับทหารเดินเท้า ขุนพลโกกราบทูลว่า : มันไม่สำคัญว่าจะมีชีวิตสูญเสียไปเท่าไร เราจะปกป้องฝ่าบาทจนกว่าทหารคนสุดท้ายจะสิ้นลมหายใจพะย่ะค่ะ

เสนาบดียอนมาเข้าเฝ้า นั่งตรงข้ามกษัตริย์ คนละหัวโต๊ะตัวยาว มาอ่านความรักลูกของ คนเป็นพ่อ 2 คนดู



เสนาบดียอน : เมื่อ 10 กว่าปี ก่อน เมื่อครั้งที่ฝ่าบาทประทับนอกปราสาทโกกแน หม่อมฉันเคยไปเฝ้าครั้งหนึ่ง หม่อมฉันจำดอกไม้ที่บานอยู่บนเนินเขาหลังที่ประทับได้ เราจะถวายที่ดินและทุ่งนานั้นให้กับฝ่าบาท และถวายเงินให้มากเท่าที่ทรงต้องการ และถ้ารัชทายาท ทัมด๊ก ทรงสัญญาว่าจะประทับที่นั่นด้วย พ่อลูกจะได้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขตลอดไป ทรงได้ยินเสียงข้างนอกนั่นหรือไม่พะย่ะค่ะ ทหารจาก 3 แคว้นกำลังล้อมพระราชวัง เมื่อใดที่พวกนั้นพังประตูเข้ามาในวัง หม่อมฉันก็ไม่สามารถช่วยฝ่าบาทได้พะย่ะค่ะ
กษัตริย์ทรงแย้มริมพระโอษฐ์นิดๆ : ท่านเสนาบดียอน ท่านรู้ไหมว่าทำไมข้าถึงต้องมานั่งอยู่บนบัลลังก์หลายปีที่ผ่านมา ทั้งหมดก็เพื่อให้รัชทายาทขึ้นเป็นกษัตริย์
เสนาบดียอน : เพราะเหตุนั้นฝ่าบาทถึงสร้างเรื่องเท็จกับอารามเทวีพยากรณ์หรือพะย่ะค่ะ เพราะเหตุนั้นฝ่าบาททรงกล่าวเท็จว่ารัชทายาท ทัมด๊ก ประสูติภายใต้ดวงดาวจูชิน
กษัตริย์ :ทำไมท่านถึงคิดว่าข้ากล่าวเท็จ
เสนาบดียอน : หม่อมฉัน ยอนการรยอ ขอทูถามฝ่าบาทอีกครั้ง ก้มหน้าตัวเองลง หม่อมฉันก็เป็นพ่อคน หม่อมฉันเข้าใจดีถึงความทะเยอทะยานของพ่อที่มีต่อลูก แต่อาณาจักรนี้ ปกครองโดยกษัตริย์ 16 พระองค์ ตั้งแต่กษัตริย์ จูมง ทรงก่อตั้งขึ้นมา ชาติของเราได้รอคอยกษัตริย์จูชินมานาน อย่าได้ทรงต่อต้านโองการแห่งสวรรค์ เงยหน้ามองกษัตริย์ ทรงละทิ้งความทะเยอทะยาน ที่โง่เขลาดด้วยพะย่ะค่ะ หม่อมฉันเกรงว่าความโกรธของคนพวกนั้น จะทำให้ฝ่าบาททรงได้รับอันตรายพะย่ะค่ะ
กษัตริย์ แย้มริมโอษฐ์ : ข้าไม่กลัวอะไรกับความตาย สิ่งที่ข้ากลัวจริงๆ ก็คือไม่สามารถทำให้ความตั้งใจของข้าเป็นจริง ข้าจะทำให้รัชทายาท ทัมด๊ก เป็นกษัตริย์แห่งโคคุเรียวนั่นคือความประสงค์ของข้า

ทั้งสองพ่อมองตากัน เสนาบดียอนลุกขึ้นถวายคำนับกลับออกไป
ขุนพลโกเข้าเฝ้า กษัตริย์ทรงสั่ง ให้ขุนพลโกออกจากวังเอาทหารออกไปให้มาก ทิ้งไว้ที่นี่เพียงเล็กน้อยไม่ให้คนสงสัย ตามหารัชทายาท มันเป็นเวลากว่า 2 พันปี ตั้งแต่การก่อตั้งและการล่มสลายของจูชิน สวรรค์กล่าวว่า กษัตริย์จูชินจะทรงกลับคืนมา ข้าไม่รู้ว่าจะเป็นรัชทายาท ทัมด๊ก หรือบุตรชายของเสนาบดียอน แต่ถ้าเป็นองค์ชายทัมด๊ก เจ้าต้องคุ้มครองเขา หากไม่ใช่เขา...จนกว่าเจ้าจะแน่ใจว่า เขาไม่ใช่กษัตริย์จูชิน ทรงถอนพระทัยเช่นนั้นเจ้าต้องเอาชีวิตเขา ถ้าประเทศชาติมีกษัตริย์ 2 องค์ ประชาชนจะเดือดร้อน เพราะฉะนั้นเจ้าต้องเอาคนออกไปและคุ้มครองเขา ขุนพลโกน้ำตาคลอคุกเข่าลง กราบทูลว่า หม่อมฉัน โกอูซุง ขอรับสนองพระบรมราชโองการพะย่ะค่ะ เมื่อออกมาจากที่ประทับ ขุนพลโก ซึ่งควบคุมหน่วยทหารองครักษ์ สั่งการให้กองทหารที่2 และที่3 ถวายอารักขา กษัตริย์


บาซอน ติดสินบนทหารยามที่หน้าประตู แต่ไม่แปลกเพราะ บาซอน ทำเป็นกิจวัตร อยู่แล้ว บาซอน พาทีมโปโลสีดำไปที่คอกม้าภายนอกปราสาทโกกแน โซวดูรู คำนับขอบคุณบาซอน
ที่พักลับฮวาเซิน โชจูโด เข้ามารายงาน แทจังโร ซารยางเข้าใจหน้าที่ของตัวเอง พาทหารชุดแดงออกไปนอกปราสาท ผ่านหน้าบาซอน ทำให้บาซอน ย้อนนึกถึงคืนแห่งดวงดาวจูชินได้ รีบกลับไปที่ที่พักหยิบดาบจากหีบเหล็กเก็บสมบัติ เอาสองมือ จับเสื้อจูมูชิเขย่า : ไอ้พวกสารเลว เสื้อแดงที่ฆ่าพ่อข้าในคืนดวงดาวจูชิน ไอ้สารเลวที่ทำให้ข้าและพี่ชายพรากจากกัน ฮยอนโก และฮยอนยองเข้ามาพอดี ฮยอนโก อุทานคำว่า ฮวาเซิน

ซารยางมุ่งหน้าไปชายแดนหมู่บ้านแห่งความอดอยาก เมื่อไปถึงก็รื้อค้นบ้านเรือน จับผู้คน เอามากองรวมที่ลานหมู่บ้านขู่เข็ญถามหาองค์ชาย องค์ชายทนไม่ได้ที่ทหารฮวาเซินจะฆ่าสองแม่ลูกที่นั่งพิงฝาบ้านไม่สนใจสิ่งใด เกิดการต่อสู้ องค์ชายฆ่า ทหารฮวาเซินไปหลายคน ในขณะชุลมุน โซวดูรู ขี่ม้าเข้ามาฉุดดึงองค์ชาย ขึ้นหลังม้า แล้วซูจินี ก็ยิงธนูฆ่าทหารฮวาเซินไปหลายคน
องค์ชายและซูจินี ขี่ม้าสวนกัน ต่างองค์ต่างคน มองซึ่งกันและกัน
โซคีฮา นั่งนึกถึงเหตุการณ์ ที่ จอกฮวาน เปิดเผยต่อหน้าองค์ชาย ว่า เธอคือผู้พิทักษ์หัวใจฟินิกซ์และรับใช้ ยอนโฮแก และคำบอกของยอนโฮแก ที่ให้ทูล องค์ชายไปให้ไกลอย่ากลับมาปราสาทโกกแน อีก และที่บ้านพักชายแดน ที่องค์ชายตรัสว่า คีฮา...อย่าทุกข์ทรมานเพราะข้า แล้วก็กอดกัน


องค์ชาย และทีมโปโลสีดำ หยุดพักที่บ้านร้าง แล้ว ทหารของฮวาเซินตามมา องค์ชายแนะนำให้ เอาวิธีการเล่นลมวน มาใช้ ( ผู้เล่นคนหนึ่งเอาลูกวิ่งไปทางหนึ่ง และคนอื่นๆ ..) แต่ โซวดูรู ทูลว่า มันอันตรายเกินไป เล่นหีบสมบัติเป็นอย่างไร คนของหม่อมฉัน ชำนาญในเรื่องนี้ เจ้าตัวเล็กของจุนโน เสริมว่าผู้เล่นทุกคนแกล้งทำเป็นว่า มีลูกอยู่แล้ว และ .... ดัลโก (ลูกชายคนที่สองของฮีกแก) ผลักหัวคนพูด บอกว่า ทรงรู้น่า.. แล้ว ฮวาเซิน ก็หลงกลการเล่นหีบสมบัติของเผ่าจุนโนนี้ องค์ชาย ซูจินี และคนอื่นๆ หนีไปได้
โซวดูรู ทูลองค์ชายว่า ถ้าเราไปทางนี้เราจะไปถึงจุนโนคืนพรุ่งนี้พะย่ะค่ะ

แต่องค์ชายไม่ไปจุนโนแต่จะกลับไปปราสาทโกกแน โซวดูรู ถามว่า พระองค์จะกลับไปถ้ำสิงโตหรือ องค์ชายตอบว่า : ข้าต้องทำเรื่องบางอย่างก่อน มันอันตรายพวกเจ้ากลับไปจุนโนเถอะ แล้วทรงม้าออกไปจากที่นั่น เมื่อแรก ดัลโก ชักชวนให้ทีมโปโลสีดำกลับจุนโน ซูจินี เอาก้อนหินขว้างหัว บอกว่า : เจ้ามีความจงรักภักดีน้อยกว่าหนอนแมลง เสียอีกเผ่าจุนโน พวกเจ้าถูกดักทำร้ายในคืนก่อนการแข่งขัน พวกเจ้าคิดว่าเป็นพวกโจรหรือ เจ้ารู้ไหมว่าใครสั่งให้ทำร้าย เขาคือยอนโฮแก รัชทายาทเล่นแทนพวกเจ้าเพราะพวกเจ้าบาดเจ็บ แล้วอะไรกัน ไม่อยากเห็นพระองค์ แล้วก็ยกเท้าเตะ ดัลโก จนร้องโอย
ซูจินี และเผ่าจุนโน ขี่ม้า ตามมาทันองค์ชาย ซูจินี ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยม สงบเสงี่ยมเรียบร้อย องค์ชาย แย้มพระโอษฐ์ให้ เป็นการบอกว่า ขอบใจพวกเจ้าทุกคน

โซจูโด มาส่งข่าว 3 ผู้นำแคว้น ว่า รู้แล้วว่าลูกชายทั้ง 3 คน ถูกจับขังไว้ที่ไหน พวกเขาถูกจับตัวในหมู่บ้านเล็กๆ ที่เป็นของฝ่าบาท อยู่ประมาณ 30 ลี้จากที่นี่ ผู้นำแคว้น : ถ้าเช่นนั้น ฝ่าบาทเป็นคนทำทั้งหมด โชจูโด สร้างเรื่องต่อว่า องค์รัชทายาททรงปล่อยพวกจุนโน และกำลังมุ่งหน้าไปหมู่บ้านนั้น ทรงตั้งใจจะไปสังหาร และทำลายหลักฐาน ผู้นำแคว้นคนหนึ่ง สั่งเตรียมทหารและออกเดินทางทันที
ผู้นำแคว้น นำกองทหารตามไปที่ โชจูโด บอก



ส่วนองค์ชาย ถูก ฮวาเซิน สร้างสถานการณ์ ให้ผู้นำแคว้นเห็นว่าองค์ชาย และทีมโปโลสีดำ เป็นผู้สังหารบุตรชายทั้งสาม ของผู้นำแคว้น แม้จะรู้ว่านี่เป็นกับดัก แต่องค์ชายก็กลับองค์ไม่ทันเสียแล้ว ผู้นำแคว้นถามว่า ทำไม ทำไมทรงทำเช่นนี้ ทัมด๊ก ข้าจะฆ่าเจ้าแก้แค้นแทนลูกชายของข้าและชักดาบออกมา สั่งทหารบุกโซวดูรู ทูลว่ารัชทายาทได้โปรด องค์ชายและเผ่าจุนโน ขี่ ม้าหนีออกมาจากสถานการณ์นั้น แล้วทรงหยุดม้า เพื่อตัดสินพระทัยว่าจะทรงทำอย่างไรดี ฮยอนยองก็ ใช้ระเบิดควัน ช่วยพระองค์

มีเสียง ฮยอนยอง เรียก ซุจินี : ข้าเอง
โซวดูรู : ถ้าพวกนั้นกลับไปถึงปราสาทโกกแน จะยิ่งมีเรื่องวุ่นวายหนักเข้าไปอีก พระองค์จะตกอยู่ในอันตรายพะย่ะค่ะ
องค์ชายทรงไตร่ตรอง : พวกเจ้าจะเอากองทหารของจุนโนไปที่ปราสาทโกกแน ได้หรือไม่
โซวดูรู : ต่อให้รีบแค่ไหน มันต้องใช้เวลา 2 วันพะย่ะค่ะ องค์ชายทรงขึ้นอาชา : พวกเรามุ่งตรงไปปราสาทดัลจา ที่นั่นมีทหารมากกว่า โซวดูรู พยักหน้า : หม่อมฉันเข้าใจไปกันเถอะ องค์ชายทรงหันไปทาง ซูจินี ทรงเรียก ซูจินี ซูจินี ทำเสียงตอบรับในคอ องค์ชายตรัสต่อว่า : เข้าไปในปราสาทโกกแนแทนข้า เข้าไปดูสิว่า ที่นั่นเกิดอะไรขึ้น ซูจินี ทำท่าอึกอักจะคัดค้าน องค์ชาย ตรัสต่อว่า : ได้โปรด แล้วไม่ทรงรอคำตอบ (เพราะแน่ใจว่า คำนี้เป็นคาถาวิเศษ โอมอ่านเมื่อไร เป็นได้ผลทุกทีทุกคนกับบรรดาสาวๆ) ซูจินี เดินตามหลังม้าตัวสุดท้ายที่วิ่งออกไปจากบริเวณนั้น ฮยอนยอง บ่น : ข้าช่วยชีวิตทุกคน แล้วพวกเขาไปไหนกัน ซูจินี หันกลับ ฮยอนยอง คว้าแขน ซูจินี ไว้ : เจ้าจะไปไหน ซูจินี ตอบว่า : ข้าต้องไปปราสาทโกกแน มีงานสำคัญ บอกหัวหน้าด้วยข้าต้องไปเดี๋ยวนี้ แล้ว ฮยอนยอง ก็คว้าได้แต่ลมตามหลังซูจินี

ที่พักลับ ฮวาเซิน
ซารยางมารายงานผล แทจังโร บอกว่า : รัชทายาททัมด๊ก เป็นคนหนุ่มที่โชคดี ข้าได้ข่าวว่า เขาหนีรอดจากดาบของเราได้ด้วยความช่วยเหลือจากพวกจุนโน สองครั้งแล้ว
ยอนโฮแก ถามว่า : ท่านรู้ไหมเขามุ่งหน้าไปทางไหน
แทจังโร สบโอกาสอีกแล้ว : ท่านพูดว่าท่านต้องการเลือดของเขาเพื่อเซ่นดาบของท่านมิใช่หรือ ข้าจะช่วยให้มันเกิดขึ้น ข้าจะทำให้ท่านเป็นวีรบุรุษที่แก้แค้นให้กับความตายของบุตรชายทั้ง 3 ผู้นำแคว้น จะไม่มีใครหลั่งน้ำตาให้กับความตายของเขา ข้าสัญญากับท่าน
แล้ว ยอนโฮแก ก็ขี่ม้าออกจากที่พักลับฮวาเซิน
แทจังโร : มันผ่านมา 17 ปีแล้ว คืนนั้น ถ้าเรามีสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 อยู่ในความครอบครองของเรา ฮวาเซินจะต้องครองโลกนี้ ท่านเสนาบดียอนอยู่ที่ใด

เสนาบดียอนนั่งอ่านสาร แล้วส่งต่อให้ โชจูโด โชจูโด อ่านแล้วหัวเราะชอบใจ เสนาบดียอน สั่งความสำทับ อีกครั้ง
แผนที่ 3 ก็เริ่มขึ้นอีก
ผู้นำแคว้น นำศพ ของบุตรชาย 3 คน กลับมา ผู้นำแคว้น อีก 2 คน มาเปิดดูศพลูกชายตัวเอง ทุกคนมีแต่ความเศร้าโศก
องครักษ์หญิง กั๊กตัง เข้ามากราบทูลถวายรายงาน : พวกผู้นำแคว้นมารวมตัวกันที่หน้าวังพร้อมกับร่างที่อาบเลือดของลูกชายพวกเขาเพคะ
กษัตริย์พระราชดำเนินหมุนรอบพระองค์เอง
มีความเคลื่อนไหวกับกองทหารในปราสาทโกกแน

กองทหารที่ 2 เป็นองครักษ์ชาย และกองทหารที่ 3 เป็นองครักษ์หญิง พบกัน หัวหน้ากองทหารที่ 2 พูดว่า พวกเราไม่มีทางอารักขาฝ่าบาทได้ กั๊กตังถามว่า เจ้าต้องการละทิ้งฝ่าบาทหรือ หัวหน้ากองทหารที่ 3 ตอบว่า เราต้องการกำลังเพิ่ม กั๊กตัง ตอบว่า ไม่มีใครอีกแล้ว เราต้องอารักขาฝ่าบาท พวกเจ้าเข้าใจไหม แล้วจากไป หัวหน้าองค์รักษ์ กองที่ 2 บอกทหารของตนว่า : พวกเจ้าได้ยินนางแล้ว พวกเราต้องอารักขาฝ่าบาท เดือนหน้าลูกชายข้าจะครบขวบไปกันเถอะพวกเรา



เทวีพยากรณ์ขึ้นไปบนกำแพงประตูปราสาท ถามว่าพวกท่านกลายเป็นคนที่ต้องการความตายให้กับฝ่าบาทตั้งแต่เมื่อไร พวกท่านต้องเชื่อฟังโองการแห่งสวรรค์ ผู้นำแคว้นตะโกนตอบ โคคุเรียวกลายเป็นชาติที่ปิดประตูใส่ประชาชน พวกเราสูญเสียบุตรชาย ข้าไม่ต้องการฟังสวรรค์ ข้าต้องการเห็นด้วยตาตัวเอง ข้าต้องการแก้แค้นให้ลูกข้า ข้าต้องการเฝ้าฝ่าบาท เปิดประตูเดี๋ยวนี้ เสียงโห่ร้องฮึกเหิม ของทหารชั้นผู้น้อย ดังเข้าไปในพระราชฐาน กษัตริย์ ทรงประทับนิ่ง สายพระเนตรไม่หวั่นไหว

องค์ชาย มาถึงปราสาทดัลจา
ยอนโฮแก ขี่ม้าตามมา แล้วหยุดม้ารอ มีทหารฮวาเซิน ชี้บอกทางให้ยอนโฮแก ยอนโฮแก ดึงผ้าขึ้นมาปิดครึ่งหน้าของตัวเอง ที่ปราสาทดัลจา ทหารที่อยู่นอกประตูปราสาท รีบกลับเข้าภายในประตู เมื่อองค์ชายมาถึง ประตูปิด ทรงทำท่าแปลกพระทัย โซวดูรู ก็ตกใจ ... อะไรนี่อะไรกัน.... ทหารทุกคนบนกำแพงประตู เข้าประจำการ องค์ชายเองก็ ไม่คาดฝันกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้


ปล . ที่ 3 ตอนต่างๆของการเล่าเรื่องย่อ ที่นี้ เป็นไปตามต้นฉบับของเกาหลี ที่มี 24 ตอน จะไม่ตรงกับของไทยมีวีช่อง3
ปล. ที่ 4. ต้นฉบับของการแปล น่าจะมีที่มาต่างกัน เรื่องย่อนี้ แปลมาจาก แฟนคลับเกาหลี แปลเป็นภาษาอังกฤษให้บรรดาแฟนคลับ ของดารา เบยองจุน ส่วน ของ ช่อง 3 น่าจะแปล มาจาก ภาษาจีน แต่ไม่ทราบว่า เป็นการแปล จากเกาหลีเป็น จีน หรือ จากเกาหลีเป็นอังกฤษ แล้วแปลจีนอีกที แล้วจึงแปลไทย

Copyright @ Amornbyj & SUE