Tuesday, June 10, 2008

ความคิดเห็นกับตอนจบของละคร

แลกเปลี่ยนความคิดเห็น จากละคร

คงไม่อาจหาญ บอกว่า นี่เป็นคำตอบ ที่มีแฟนละครสงสัยกับตอนจบของ the legend หรอกนะคะ คนเขียน ก็เป็นแค่แฟนละคร the legend คนหนึ่ง ที่ไม่รู้ภาษาเกาหลี และไม่แข็งแรงกับภาษาอังกฤษ อยู่ในระดับอ่อนแอ
แท่งหินที่จารึกข้อความในตอนจบของละคร นั้น มีการกล่าวกันว่า พระเจ้า JangSu พระโอรส องค์โตของ กษัตริย์กวางแกโท มหาราช ทรงโปรดให้มีการจารึก คำสรรเสริญ พระบิดา ในปี ค.ศ . 414 หลังจากที่ขึ้นครองราชย์ในปี 413 อันเป็นปีที่พระบิดาสวรรคต ได้ถูกค้นพบในดินแดนแมนจูเรีย ในปีค.ศ. 1875 ดังนั้นในละคร ที่กล่าวว่ามีคำจารึกด้วยอักษรโบราณ ก็เป็นเรื่องจริงที่แผ่นจารึก

ก็มีผู้อ่าน ผู้ชม วิจารณ์กันว่าตอนจบ คือ ทุกคนตายหมดหรือทั้ง ทัมด๊ก ผู้พิทักษ์ ทั้งหลาย ผู้เล่าขอวิเคราะห์คำตอบดังนี้ ว่า แท่งหินที่เกิดคำจารึกข้อความเหตุการณ์ในรัชสมัยต่างๆ นั้น จนถึง รัชสมัยที่ 23 ที่กษัตริย์ กวางแกโท มหาราช สวรรคตนั้น คือ การเล่าเรื่องย่อที่ละครไม่อาจสื่อออกมาแบบให้ตัวละครโลดแล่นที่หน้าจอให้พวกเราชมได้ เพราะเหตุผลหลายอย่าง จึงต้องสรุป พระราชประวัติของกษัตริย์พระองค์นี้ ด้วยการโยงละครมาสู่ประวัติศาสตร์จริง

บางแห่งว่า ทรงครองราชย์เมื่อพระชนม์ 17 พรรษา และทรงครองราชย์นาน 23 ปี (บางแห่งว่าทรงครองราชย์ ตอนพระชนม์ 16 พรรษา การอ้างปี จะเหลื่อมกัน 1 ปี แต่ในละครจะสื่อว่า ทรงประสูติ ปี ค.ศ. 374 ทรงครองราชย์ ปี ค.ศ 391 ก็ถือตามละครว่าครองราชย์ตอนพระชนม์ 17 พรรษา)

รัชสมัย ยองนัก ที่ 23 อันเป็นปีที่สวรรคต หักลบพระชนมายุ จริง 39 พรรษา ของกษัตริย์กวางแกโท ถือว่าปีที่ขึ้นครองราชย์ นั้นทรงมีพระชนม์ 17 พรรษา และทรงยกทัพไปตีป้อมปราการต่างๆ เมื่อพระชนม์ 19 พรรษา ตรงกับในละครว่า
ปียองนักที่ 3 โจมตี แพคเจ และยึดป้อมควานมี แพคเจ ถอยกลับ เมื่อจะยกกองกำลัง มาต่อสู้
ปียองนักที่ 4 แพคเจโจมตีป้อมซุกุ๊ก
ปียองนักที่ 5 ก็ยังต่อสู้กับแพคเจ จนถึงปี..
ปียองนักที่ 6 กษัตริย์ อาชิน ยอมแพ้ราบคาบ
ส่วนใน วิกิพีเดีย กล่าวว่า
ปี ค.ศ 392 โคคุเรียว ไปตีแพคเจ taking 10 walled cities along the two country และเป็นปีที่ Asin ขึ้นครองราชย์ที่แพคเจ
ปี ค.ศ.393 Asin of Backje subsequently planned a counter-offenive against Gwangaeto,a plan he was forced to abandon when his iavasion force was defateed by Goguryeo
ปี ค.ศ 394 King Asin agsain attacked Goguryeo
ปี ค.ศ 395 ( บางที่ก็ใช้ปี 396 ) Asin lost to Goguryeo again
เอ๊ะนี่คุณซงจีนา เขียนบทละคร ตาม วิกิพีเดีย น่ะซี

ต่อเรื่องกับละครว่า ทัมด๊ก ไปยึด 10 ป้อมปราการของแพคเจ ต้องมีพระชนม์ในราว 19 พรรษา เป็นปีที่โซคีฮา อุ้มท้องและคงคลอดในระหว่างที่ ทัมด๊ก มีพระชนม์ปลาย 19 ต้น 20 พรรษา เมื่อ ทัมด๊ก พระชนม์ 39 พรรษา เสด็จสวรรคต พระโอรสที่ขึ้นครองราชย์ต่อ ในขณะมีพระชนม์ 20 พรรษา ในปี 413-490 (รับรองเขียนไม่ผิด กษัตริย์จังซู ครองราชย์ นาน 77 ปี มีพระชนม์ ยืนนาน 97 พรรษา)
เมื่อ อาจิ๊ก มาพบ ทัมด๊ก เป็นเวลาที่ ซูจินี หายไปนาน 8 ปี ดังนั้น ตอนนั้น ทัมด๊ก มีพระชนม์ไม่เกิน 28 พรรษาเอง ขณะที่เกิดสงครามกับ อาลูลันซา ดังนั้น ทรงครองราชย์ต่อ อีก 11 ปี ทำคุณประโยชน์ ใหญ่หลวงให้ โคคุเรียว ตามที่ แท่งศิลาจารึก บอกกล่าวเล่าเรื่อง แต่ ช่อง สาม ตัดทิ้งเพราะเวลาหมด ต้องถ่ายทอดข่าวในพระราชสำนัก 2 ทุ่ม late เกือบ5 -6 นาที งง ค่ะ ว่า ทำไมเอาละครเขามาฉายแล้ว ไม่สื่อใจความสำคัญ ของกษัตริย์พระองค์ นี้ ว่าจะไม่บ่นแล้วเชียว อดทนมาได้ตั้งนาน แต่ขอ บ่น เรื่องข้อความจารึกนี้ที่ควรสื่อนี้ เพราะเห็น มีการตัดเนื้อเรื่องออกไปเหมือนกัน ทำไมน่าจะเลือกที่สำคัญ เล่าให้คนไทยรู้จักเกียรติประวัติของพระองค์ เฮ้อ.... ปูพื้นมายาวเชียว เข้าประเด็นดีกว่านะคะ

ข้างบนนั้น ประเมินตาม ความน่าจะเป็นที่มีข้อมูลจากเอกสารอื่นให้อ้างอิง

ถ้าอ่านตอนจบของสคริปต์ 1/3 ตัวละคร สำคัญ ที่ตายในบทที่ 24 คือ แทจังโร ฮีกแก ยอนโฮแก ส่วน โซคีฮา มลายหายไปกลางอากาศ ค่ะ

ทีนี้ก็วิเคราะห์ ความน่าจะเป็นจากความรู้สึกส่วนตัวละค่ะ

ในตอน ที่ 23 กล่าวว่าถ้าดาบจูมง ถูกทำลาย กษัตริย์จูชิน และ ผู้พิทักษ์ ก็จะตายด้วย แต่ตามบท ที่ Happy ending ทั้งกษัตริย์จูชิน และผู้พิทักษ์ ก็เกือบตายเหมือนกัน อาการโคม่าแล้ว เมื่อสัญลักษณ์ เสือขาว มังกรน้ำเงินและเต่าดำ อันตรธานหายไป (ค่อยๆ หายไปทีละอย่าง ส่วนของเต่าดำระเบิดเลย) เหลือ ฟินิกซ์อีกอย่างเดียวเท่านั้นแต่ โซคีฮา ขอร้องให้ ซูจินี ช่วยดับไฟให้
ย้อนความว่าในตอนก่อนที่ซูจินี จะหนีไปจากทุกคน ฮยอนโก เล่าว่า ซูจินี บังคับไฟได้และถูกห้ามเล่นกับไฟ มาตั้งแต่เด็ก ในขณะที่ โซคีฮา ทำได้เพียง การจุดไฟ แต่ดับไฟไม่ได้ และซูจินี นึกย้อนอดีต เมื่อ 2 พันปี ได้ ซูจินี ฉลาดมากมาตั้งแต่เด็ก จึงคิดวิธีที่จะดับไฟ ที่โซคีฮา ทำให้เกิดขึ้น การดับไฟบัลลัยกัลป์ โดย ใช้ ลูกแก้ว หัวใจฟินิกซ์ช่วย ทำให้ ทัมด๊ก และผู้พิทักษ์ ไม่ตาย และสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ฟินิกซ์ ไม่ถูกทำลาย แม้ ดาบจูมง ถูก ทัมด๊ก หักทิ้งไปแล้ว แต่เนื่องจากละครสื่อไม่ได้ เพราะหลายสาเหตุ คุณ ซงจีนา ต้องย่นย่อเรื่อง และเปลี่ยนบทไปเล็กน้อย ในสนามรบ หลังด้ามดาบถูกทำลาย ผู้พิทักษ์รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ แต่ไม่ได้สื่อ เลย ว่า ทั้ง 3 ผู้พิทักษ์ หายสูญไปกลางอากาศ สิ่งที่หายวับไปกับตาคนดู มีเพียง สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธ์ ทั้ง 4 อย่าง เท่านั้น และทัมด๊ก เดินหายไปในแสงสว่างของแท่งหิน เท่านั้น
ขอคิดเอาเองว่า ทัมด๊ก ตัดขาดกับสวรรค์ ไม่มีสภาวะ เทพฮวานอุง เป็น ทัมด๊ก มนุษย์ธรรมดา พร้อมกับผู้พิทักษ์ ทั้งสาม ที่ไม่มีสภาวะ เป็น จตุรเทพ (ซูจินี เป็น จตุรเทพ ที่ 4 ) และ ซูจินี ทหารหญิง ข้างพระองค์
ทัมด๊ก จะต้องทำสงคราม อีกยาวนาน ถ้าไม่มีระดับขุนศึกคู่พระทัย จะลุยรบ เข้าไปในฮั่น และ แมนจูเรีย ได้อย่างไร ซึ่งระดับของฝีมือที่ปูพื้นรอไว้ก่อนว่า แม้จูมูชิ และชอโร ไม่ต้องอาศัยสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ ก็สามารถเคียงข้างเป็นขุนศึกที่เก่งกาจเชี่ยวชาญ หาญกล้า เป็นขุนศึก ซ้าย และขวา ให้ ทัมด๊ก ได้

(ตามตำราพิชัยยุทธ์ ของ หวูจื่อ กล่าวว่า การเคลื่อนทัพนั้น ซ้ายเป็นมังกรเขียว (จีนเรียกมังกรเขียว เกาหลี ใช้ Blue Dragon) ขวาเสือขาว ทัพหน้าคือ หงส์แดง (ไม่ใช่ ทีมลิเวอร์พูลแน่นอน เพราะนั่นน่ะ อยู่ที่ประเทศอังกฤษ) เกาหลี ใช้ ฟินิกซ์ และเต่าดำ คุมหลัง (เกาหลีใช้ ฮยอนมู หรือ อูซา (ญี่ปุ่น) ) บัญชาการรบจากเบื้องบน นำปฏิบัติสู่เบื้องล่าง)

เห็นการจัดทัพของจีนโบราณแล้ว งง ทึ่ง อึ้งกิมกี่ อีกครั้ง ที่ ช่างเหมือน กองทัพนักฟุตบอล ที่ มี กองหน้าบุกทะลวงทำประตู มี ปีกซ้าย ปีกขวา พาลูกบอลเคลื่อนไปดินแดนตรงข้าม ประสานกับ กองกลาง ห้องเครื่องสำคัญ ในการทำเกม มีราชันย์ บัญชาการของทีม มีกองหลังคอยเสริม สอดแทรก ในการทำเกม และ คอยป้องกันการสวนกลับ คิดอีกที ฟุตบอล เกิดที่อังกฤษ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่กองทหารในค่าย ใช้การเล่นนี้คลายเครียด (ถ้าไม่ถูกแฟนบอลช่วยแก้ไขให้ด้วยนะคะ) แสดงว่า รูปแบบการจัดกองทัพอย่างนี้ ก็ใช้กันแพร่หลาย แม้แต่ที่ยุโรป ไม่รู้ว่า คิดกันมาเองคือ ต่างคนต่างคิด หรือ กองทัพตะวันตก เลียนแบบไปจาก จีน และเกาหลี คนเขียน ชัก งง งง กับตัวเองแล้ว ว่า แหม in trend พอดี อะไรอย่างนี้ กับฟุตบอล ยูโร 2008 ว้าว !!! ขณะนี้ ฮอลแลนด์ นำอิตาลี อยู่ 3-0 ค่ะ(เพราะคานนาโวโล บาดเจ็บ ลงแข่งไม่ได้หรือเปล่า อิตาลี เลยเป็นแบบนี้) แต่ คนเขียน เชียร์ เยอรมันนะคะ ชนะ โปแลนด์ไปเมื่อวาน 2-0 ฮูเร ฮูเร ดีจังเลย

รวมทั้งมีการกล่าวถึงในที่อื่นว่า พระโอรส จังซู เป็นพระโอรสองค์โต แปลว่า มีพระโอรส เกิน 1 นะซีคะ ทัมด๊ก มนุษย์โลกเต็มขั้น ทรงพาขุนศึกทำศึกอีกยาวนาน รวม แพคเจ ชิลลา โคคุเรียว เป็นหนึ่งเดียว และบุก ไปฮั่น แมนจูเรีย สร้างอาณาจักร จูชิน กว้างใหญ่ไพศาล จนได้รับการขนานพระนามหลังสวรรคต ว่า กวางแกโท
พระโอรส จังซู ทรงสืบสาน พระราชดำริของพระบิดา เป็น The great King ของเกาหลี อีกพระองค์ โคคุเรียวพัฒนา เจริญรุ่งเรือง สงบสุข อีกเป็น ร้อยปี แต่การถวายพระนามมหาราช นั้น ถวายแด่ กวางแกโท

คุณ ซงจีนา เลย ทำให้ สอดคล้องกับละคร ว่า พระองค์ (กษัตริย์จังซู ) เป็นสายเลือดจากสวรรค์ ของ ฮวานอุง ด้วยการสื่อความมีบุญญาธิการหลายครั้ง
จากการที่ กษัตริย์ จัง ซู มีพระชนม์ ยืนยาว 97 พรรษา ทรงอยู่บน พระราชบัลลังก์ 77 ปี ทำให้ เมื่อสิ้นพระชนม์ พระนัดดา องค์โต สืบราชสมบัติต่อ เป็นกษัตริย์ องค์ ที่ 21
ดังนั้น ถ้าหากแม้ละคร จะผูกต่อเรื่อง ว่า พระมารดา ของพระโอรสองค์อื่น อาจจะเป็น ซูจินี คือซูจินี เป็น ราชินี หรือพระสนม ก็คงไม่มีพระชนม์ยืนยาว จะสืบต่อราชสมบัติได้ ขนาดพระโอรสของกษัตริย์ จังซู เอง ยังรอคอยสืบราชสมบัติต่อ ไม่ไหว เสด็จไปเฝ้าเสด็จปู่ คือ พระเจ้ากวางแกโท เสียก่อนกระมัง

ที่สำคัญ คุณซงจีนา คงไม่ตัด หนทาง ที่จะทำให้มีละครเรื่องนี้ ในภาคที่สอง หากเขียนเรื่องให้ ทัมด๊ก สวรรคต และผู้พิทักษ์ ตายหมด ( ทัมด๊ก และผู้พิทักษ์ ถ้าอยู่ ก็อยู่ด้วยกัน หากกลับสวรรค์ ก็ต้องกลับด้วยกัน เลือดสุพรรณโคคุเรียว ทำนองนั้นค่ะ) แต่ การสื่อ มันสื่อชัดๆ ไม่ได้ ว่า อยู่ต่ออย่างไร เพราะถ่ายทำไม่ได้ด้วยเหตุหลายอย่าง ก็เลยให้จบ แบบ เป็นไปได้หลายทาง แล้วแต่คนดูจะตีความ มันดู เท่ห์ ด้วย ที่จบแบบไม่ แจ่มแจ้ง ชัดเจน ให้ อยู่ในดุลยพินิจ และวิจารณญาณ ของผู้ชมเองก็เลยถกเถียงกันมา ตั้งแต่ ธันวาคม 2007 แล้ว ว่า จบแบบนี้แปลว่าอะไร คุณ ซงจีนา ก็เลยเอาการจบแบบสคริปต์ 1/3 มา เผยแพร่
ให้ แฟนละครอ่าน เป็นมัคคุเทศก์นำทาง ไปหาตอนจบกันเอาเอง

ไม่ทราบว่า จะทำให้ คุณ pakung หาย งง ไหม หรือ งง หนัก เข้าไปอีก ว่า นี่ Amornbyj ตอบคำถามผมยังไงกัน นี่ !!!!!!!!! ก็.....บอกแล้ว ว่า แลกเปลี่ยนความคิดกันไงเล่า

อ้อ เคยมีคุณ บี สงสัย ความเป็น ฟินิกซ์ของ โซคีฮา และซูจินี เคยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่ รู้สึกข้อความจะลบทิ้งไปแล้ว ขอยกมาแลกเปลี่ยนกันอีกทีต่อจากตรงนี้เลย แต่ขอแยกเป็นอีกตอนนะคะ