แทจังโรขว้างดาบสั้นเล็งไปที่ อาจิ๊ก โซคีฮาพยายามปกป้องอาจิ๊กไว้ แต่แล้ว ดาบสั้นของ แทจังโรกลับกระเด็นออกไปด้วยพลังบุญญาธิการของอาจิ๊ก เอง
แทจังโร : เห็นไหม ? ข้าไม่อาจฆ่าเด็กนั่นได้ เขามีสายโลหิตแห่งสวรรค์จากบิดา และสายเลือดแห่งพื้นพิภพจากมารดา ดังนั้นเจ้าจะต้องเป็นผู้ลงมือเอง
โซคีฮา : เด็กคนนี้.. คือ..
แทจังโรเดินเข้าไปหา โซคีฮา ทันใดนั้นเอง มีลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งใส่ แทจังโร แล้วซูจินี ก็ระดมยิงธนูอย่างต่อเนื่องตามมา ลูกเธนูปักเข้าที่คอและหน้าอกของ แทจังโร แต่ว่า แทจังโรยังยืนอยู่ได้ แทจังโรดึงลูกธนูพวกนั้นออกแล้วขว้างทิ้งไป ซูจีนี เล็งธนูและยิงใส่ แทจังโร อีก
ซูจีนี ตะโกนบอกกับโซคีฮา ว่า : อย่าฆ่าเขานะ!
โซคีฮาหันไปมองซูจีนี
ซูจีนี : เด็กคนนั้น.. คือ.. ลูกชายของ พี่เองนะ
โซคีฮาทวนคำ : พี่..
ซูจีนี : ได้โปรด.. อย่าทำร้ายเขา
ที่ด้านนอก อาบูลันซา
ทัมด๊ก ทรง เสด็จ เข้าสู่อาบูลันซา ทว่าเหล่าสาวกฮวาเซินก็ดาหน้าเข้ามาขัดขวางการเสด็จไว้
ณ เบื้องหน้าแท่งหิน
ลูกธนูของ ซูจีนี ยิงไปที่ แทจังโร อีก แต่คราวนี้ แทจังโร ใช้มือคว้าเอาไว้
แทจังโร : อันชีวิตมนุษย์นั้น.. มิช้านานก็จักผ่านพ้นไป.. ชีวิตมนุษย์ช่างสั้นนัก
แทจังโร ขว้างลูกธนูเข้าใส่ ซูจีนี ด้วยพลังแรง ของ แทจังโร ทำให้ลูกธนูนั้นปักลงบนหัวไหล่ของ ซูจินี และทำให้ ซูจินี หงายหลังล้มฟาดไป
โซคีฮา พยายามจะเข้าไปหาซูจีนี แต่ว่า แทจังโร เข้ามาขวางไว้
แทจังโร : เด็กนั่นจะดีใจสักเพียงใด หากเขาได้รู้ว่าโลหิตของเขานั้นสามารถแลกเปลี่ยนกับอำนาจแห่งสรวงสวรรค์ได้ ได้เวลาแล้ว แล้วทำเสียงเข้ม บีบบังคับโซคีฮา ..คีฮา รีบควักหัวใจของเขาออกมาสิ !!
โซคีฮา น้ำตาร่วงพรู ส่ายหน้าเสียงสั่นเครือ : ท่านกำลังสั่งให้ข้าควักหัวใจลูกชายของตัวเองเช่นนั้นหรือ? ท่านยังมีความเป็นคนอยู่อีกหรือไม่ ?
แทจังโร : ถ้าหากข้าเป็นเขา ข้าจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง.. ที่ได้สละชีวิตของตนเอง..
แทจังโร เริ่มร้อนใจ หมุนตัว ทำท่าครุ่นคิด ทันใดนั้น แทจังโร ก็กลายร่างเป็นกลุ่มควันสีดำเข้าสิงสู่ร่างของโซคีฮา
ซูจีนี ฟื้นคืนสติและมองดูอย่างตกใจ
โซคีฮา พยายามจะหนี แล้วก็หยุดชะงัก ไม่สามารถขยับตัวเองไปไหนได้ เมื่อ โซคีฮา ลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาของ โซคีฮา ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ณ ทางเข้าสู่วัดอาบูลันซา
ทัมด๊ก ทรงต่อสู้กับเหล่าสาวกแห่งฮวาเชิน จูมูชิ และ ชอโร ตามมาช่วย ระหว่างที่พวกเขาสู้ต้านทาน ฮวาเซินไว้ ทัมด๊ก ก็ เสด็จเข้าไปเข้าไปด้านในของ อาบูลันซา
ณ เบื้องหน้าแท่งหิน
โซคีฮา วางร่างน้อยของอาจิ๊กไว้บนแท่นบูชาก่อน หันมาหยิบดาบสั้นขึ้นมา มีเป้าหมาย คือ หัวใจของอาจิ๊ก
ซูจีนี ตะโกนอย่างตกใจ : นั่นท่านจะทำอะไร?
ซูจีนี เข้ามาขัดขวาง โซคีฮา ด้วยดาบสั้นของ ซูจินี เอง โซคีฮา ใช้มือจับดาบสั้นนั้นไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วหักทิ้ง (อย่างที่ แทจังโร เคยทำมาก่อน) ซูจีนี ถูกเหวี่ยงออกไป
จิตใจของ โซคีฮา และ แทจังโร ต่างใช้พลังจิตต่อสู้กันอยู่ ภายในร่างกายของ โซคีฮา ที่เบื้องหน้าร่าง ของอาจิ๊ก
เมื่อพลังของ แทจังโร เข้มแข็งกว่า ร่างของ โซคีฮา ก็จะเข้าหาอาจิ๊ก พยายามจะใช้ดาบสั้น แทงลงที่หัวใจของอาจิ๊ก แล้ว จิตใจ ของความเป็นแม่ ที่รักลูก ปกป้องลูก ของโซคีฮา ก็จะมีพลัง ทำให้ ดาบสั้นนั้น เบนออกห่าง และร่างของโซคีฮา ก็จะถอยออกมา เป็นอยู่เช่นนี้ หลายครั้งหลายครา
ซูจีนี ลุกขึ้นได้แล้ววิ่งไปหา โซคีฮา ดึงร่างโ ซคีฮา ให้ออกห่างจากอาจิ๊ก
โซคีฮา หันกลับมา พลังจิตของ แทจังโร ทำให้ โซคีฮา จัดการกับ ซูจีนี บีบคอ ซูจินี ไว้และใช้ดาบสั้นจะฆ่า ซูจินี
ชั่วขณะนั้น โซคีฮา พลันได้ยินเสียงสั่งเสียของท่านแม่
ท่านแม่ : คีฮา..
โซคีฮาชะงัก
มีเสียงท่านแม่พูดต่อว่า : เด็กคนนี้คือน้องสาวของเจ้า...และเจ้าก็เป็นพี่สาว
ซูจีนี ดิ้นหลุดจากมือของโซคีฮา ซูจินี วิ่งไปหาอาจิ๊ก
โซคีฮา พยายามจะตามจับ ซูจีนี แล้วก็ ได้ยินเสียงท่านแม่อีก
ท่านแม่ : ในฐานะพี่สาว ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าต้องปกป้องนาง เจ้า ทำได้ใช่ไหม โซคีฮา ในวัย 5 ขวบ พยักหน้ารับคำท่านแม่
โซคีฮา ชะงักอีกครั้ง
ทัมด๊ก ทรงเข้ามาภาย ใน ของ อาบูลันซา
ณ เบื้องหน้าแท่งหิน
ซูจีนี เอื้อมมือไปหา อาจิ๊ก แทจังโร ในร่างของ โซคีฮา จับ ซูจีนี ไว้และเหวี่ยง ซูจินี ออกไปด้วยพลังที่มหาศาล
โซคีฮา และ แทจังโร ยังคงต่อสู้กันอย่างรุนแรง ภายในร่างของ โซคีฮา พลังของ แทจังโร พยามยามกดดาบลงที่หัวใจของอาจิ๊ก โซคีฮา พยายามเต็มที่ที่จะเบี่ยงดาบออก
โซคีฮา พยามขอร้อง อ้อนวอนต่อ แทจังโร : อย่า .... ได้โปรด.. อย่าทำเช่นนี้..
แต่ แทจังโร ไม่สนใจ ในเมื่อ สิ่งที่ตนเองเฝ้ารอคอย มาเนิ่นนาน ถึง สองพันปี นั้น บัดนี้ ความสำเร็จกำลังรออยู่เบื้องหน้านี้แล้ว ในที่สุด ดาบของ แทจังโร ที่ถูก แรงพลังของโซคีฮา เบนออกจากหัวใจของ อาจิ๊ก ก็เปลี่ยนทิศทางกรีดลงบนนิ้วมือของ อาจิ๊ก ทีละนิ้ว ทีละนิ้ว มีเลือด ค่อยๆซึม เป็นหยด ๆ ออกมา โซคีฮา ตกใจ ตะโกน ว่า ไม่ ...
ที่ปลายดาบ มีเลือดของ อาจิ๊ก ติดอยู่ เลือดจากรอยกรีดของดาบ บนนิ้วของ อาจิ๊ก บีบคั้นจิตใจ ของโซคีฮา จากความตกใจ กลายเป็นความโกรธ ที่รุนแรง โซคีฮา กรีดร้องอีกครั้ง สลัดพลังของ แทจังโร ที่อยู่ในร่าง กระเด็นออกไปไกลที่บันไดขั้นบนของ อาบูลันซา โซคีฮา ร้องไห้ สายตาแดงก่ำ เหมือนจะมีไฟลุกได้ ในดวงตานั้น และเริ่ม แข็งทื่อ เมฆ บนท้องฟ้า เคลื่อนตัวมารวมกันอย่างรวดเร็วจนมืดคลึ้ม ฉับพลันทันใดนั้น ร่างของ โซคีฮา ก็มีเปลวเพลิงลุกท่วมตัว และร่างลอยขึ้นสู่เบื้องบน เหนือแท่งหินของลานนั้น
ซูจีนี อุทานอย่างปวดร้าว
ซูจีนี : พี่~! ไม่นะ~!
แทจังโร ที่ถูกสลัด กระเด็น ไปกองที่พื้น ยังจุกอยู่เพ่งสายตา มองโซคีฮา อย่างตกใจเช่นกัน
ณ ทางเข้าอาบูลันซา
จูมูชิ และ ชอโร ต่างชะงักจากการสู้รบ เมื่อความมืด โรยตัว ลงรอบด้าน อย่างฉับพลัน เช่นนั้น
ณ เบื้องหน้าแท่งหิน
ซูจีนี ลุกขึ้นได้ โผเข้าไปอุ้ม อาจิ๊ก ออกจากแท่นหินบูชา หลบออกมาด้านข้างของลานตั้งใจมุ่งไปยังประตูออกของ อาบูลันซา โลหิตของอาจิ๊กหยดลงบนแท่นบูชา
ทันใดนั้นเอง เปลวเพลิงก็ระเบิดโหมกระจายออกจากร่างของโซคีฮา ลุกไหม้ไปทั่วบริเวณ ลานหินแห่ง อาบูลันซา
ทัมด๊ก เสด็จเข้ามาถึงพอดี ทรงโอบ ซูจีนี และ อาจิ๊ก ไว้ ใช้พระปฤษฎางค์ ปกป้องเปลวของเพลิงกาฬให้คนทั้งสองได้ทันการ
ทัมด๊ก ทอดพระเนตรไปยัง โซคีฮา อย่างตกพระทัย
แต่ใน ขณะนั้น โซคีฮา ไม่รับรู้ ในสิ่งใดเสียแล้ว
ทัมด๊ก ทรงผละจาก ซูจีนี และ อาจิ๊ก ทรงหันพระองค์ไปทางด้านที่ แทจังโร ยืนอยู่
ทัมด๊ก ทรงเข้าไปต่อสู้กับ แทจังโร ด้วยพระแสงดาบ ทว่า แทจังโร ก็หลบหลีกมาปัดป้องไว้ได้ด้วยมือเปล่า
พระแสงดาบนั้นหักลงและส่วนที่หักฟันถูก พระอุระของทัมด๊ก
โลหิตของ อาจิ๊ก ค่อยๆ ไหลไปสัมผัสกับสัญลักษณ์เสือขาว
สัญลักษณ์ของเสือขาวค่อย ๆเปล่งแสงออกมา
ณ ทางเข้าอาบูลันซา
จูมูชิ ชะงักการต่อสู้โดยกะทันหัน และไม่สามารถขยับตัวได้ชั่วขณะ
สาวกฮวาเชินผู้หนึ่งถือโอกาสโจมตี จูมูชิ ด้วยดาบ ทว่าดาบนั้นก็หักลง
จูมูชิเ หลียวไปมองและก็จับ ฮวาเซินผู้นั้นเหวี่ยงออกไปด้วยพลังอันมหาศาล
ณ เบื้องหน้า แท่งหิน
โลหิตของ อาจิ๊ก ค่อยๆไหลไปสัมผัสถูก สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์มังกรน้ำเงิน
สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งมังกรน้ำเงินจึงเริ่มเปล่งแสง
ขณะที่ชอโร กำลังกวัดแกว่งทวน ต่อสู้ สาวกแห่งฮวาเชิน ที่พากันปลิวกระเด็นไปราวใบไม้ร่วง ชอโร รู้สึก สะดุ้งแปลบ ปลาบในหัวใจ
ณ เบื้องหน้าแท่งหิน
โลหิตของ อาจิ๊ก ไหล ไปสัมผัสสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของเต่างูดำ
สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเต่างูดำ มีปฎิกิริยาเปล่งแสงออกมาเช่นกัน
และแล้วโลหิตนั้นก็ไหลไปที่สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ฟินิกซ์
ทัมด๊ก ทรงรับรู้ว่า ด้ามพระแสงดาบศักดิ์สิทธิ์ของกษัตริย์ จูมง กำลังมีแสงรัศมีแผ่ออกมา
แล้วโลหิตก็สัมผัสถูกสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ ฟินิกซ์
แต่ทว่าสัญลักษณ์ ฟินิกซ์ กลับไม่เปล่งแสง เหมือนสัญลักษณ์ ทั้งสาม
ทัมด๊ก ทรงยกด้ามพระแสงดาบจูมงขึ้นมา กลายเป็น ธนูวิเศษ เปล่งรัศมี จิดจ้าบาดตาบาดใจผู้พบเห็นเหมือนทุกครั้งที่ คันธนูนี้ปรากฏขึ้นมา แทจังโร เหลียวกลับมา
แล้วลูกธนูวิเศษ ก็ปรากฏ ตามมา ทัมด๊ก ทรงง้าง สายธนู แล้ว ลูก ธนู วิเศษ ก็ โลดลิ่ว จากคันธนู พุ่งตรงไปที่แทจังโร
แทจังโร พยายามปัดป้อง ทว่าลูกธนูนั้นแทงทะลุอกของ แทจังโรไป
แทจังโร ก้มมองอกของตนอย่างไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้
มีควันดำมากมาย พุ่งเป็นสายออกมาจากบาดแผล
ทัมด๊ก ทรง ปล่อย ลูกธนูวิเศษ อีกครั้งไปที่ แทจังโร คราวนี้อานุภาพของลูกธนูทำให้ร่างของ แทจังโร แตกกระจาย กลายเป็นสายควันดำ แล้วก็เปลี่ยน เป็นจุดเล็กๆ สลายหายเข้าไปที่ด้ามพระแสงดาบ กษัตริย์ จูมง ในพระหัตถ์ของทัมด๊ก เหลือเพียงชุดนักพรตที่ร่วงหล่นอยู่ที่พื้น ของ อาบูลันซา
ผู้เฒ่าเผ่าเสือ ที่อยู่เหนือกาลเวลา จนไม่มีผู้ใด รู้ว่า เนิ่นนาน เป็นจำนวนปีเท่าใดแล้ว ผู้ ที่ไม่เคยรู้จักความตาย ผู้ที่มุ่งหวังจะครอบครองสวรรค์ และโลกมนุษย์ ก็ได้กลับคืนสู่ วัฏสงสารของสรรพสิ่งในโลกนี้ คือ การเกิดแก่ เจ็บ และตาย ได้พบสัจธรรมของศาสนาพุทธ ว่า สรรพสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ตั้งอยู่ ในพระไตรลักษณ์ ในข้อ อนิจจัง-ความไม่เที่ยงคือ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นของธรรมดา ทั้งนี้ก็สุดแท้ แต่ ผลของบุญและกรรม ที่สั่งสมไว้ แต่อดีต และชาตินี้ จะส่งผลกับชาติภพต่อไป ให้ เสวยทุกข์และสุขอย่างไร แต่ แทจังโร ผู้นี้ ย่อมต้องไปเสวย ทุกขเวทนา ในปรโลก อย่างไม่รู้จบสิ้น ว่าเมื่อใด แน่นอน (คุณชอย มินซู ผู้รับบทบาท ต้องรีบไปทำบุญ ส่งผลบุญ ให้ แทจังโร แล้วละนะ)
Copyright @ Amornbyj & Kelly